ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฐานข้อมูล เรื่อง แทงหยวก อำเภอพรานกระต่าย"
Admin (คุย | มีส่วนร่วม) |
Admin (คุย | มีส่วนร่วม) (→ผลงานสำคัญ/ที่สร้างชื่อเสียง) |
||
(ไม่แสดง 6 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
แถว 20: | แถว 20: | ||
==='''ชีวประวัติ/ความเป็นมา'''=== | ==='''ชีวประวัติ/ความเป็นมา'''=== | ||
นายธรรมนูญ ยายอด (ชาวบ้านทั่วไปเรียก อาจารย์นูญ) เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ปัจจุบันอายุ 63 ปี บิดาชื่อ นายคำ ยายอด มารดาชื่อนางมาลัย ยายอด ทั้งบิดา-มารดาเป็นชาวพรานกระต่ายโดยกำเนิด ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ มีพี่น้องร่วมบิดาทั้งหมด 3 คน ซึ่งบิดาได้แต่งงานใหม่กับคุณแม่มาลัย ยายอด ซึ่งเป็นมารดาของอาจารย์นูญเนื่องจากภรรยาคนแรกได้เสียชีวิต และมีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา จำนวน 6 คน ซึ่งอาจารย์นูญเป็นบุตรคนที่ 2 พี่น้องส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขายและทำเกษตรกรรม มีเพียง 11 คนที่เป็นพนักงานรัฐวิสากิจ (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอคีรีมาส จังหวัดสุโขทัย) | นายธรรมนูญ ยายอด (ชาวบ้านทั่วไปเรียก อาจารย์นูญ) เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ปัจจุบันอายุ 63 ปี บิดาชื่อ นายคำ ยายอด มารดาชื่อนางมาลัย ยายอด ทั้งบิดา-มารดาเป็นชาวพรานกระต่ายโดยกำเนิด ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ มีพี่น้องร่วมบิดาทั้งหมด 3 คน ซึ่งบิดาได้แต่งงานใหม่กับคุณแม่มาลัย ยายอด ซึ่งเป็นมารดาของอาจารย์นูญเนื่องจากภรรยาคนแรกได้เสียชีวิต และมีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา จำนวน 6 คน ซึ่งอาจารย์นูญเป็นบุตรคนที่ 2 พี่น้องส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขายและทำเกษตรกรรม มีเพียง 11 คนที่เป็นพนักงานรัฐวิสากิจ (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอคีรีมาส จังหวัดสุโขทัย) | ||
+ | [[ไฟล์:ภาพที่ 2 ร้านค้าของนายธรรมนูญ.jpg|500px|thumb|center]] | ||
+ | <p align = "center"> '''ภาพที่ 3 ร้านค้าขายของนายธรรมนูญ ยายอด''' </p> | ||
วัยเด็ก : เป็นคนที่ชื่นชอบงานที่พ่อคำ ยายอด ทำอยู่เล็งเห็นว่าเป็นงานที่รักษาวัฒนธรรมไทยและเป็นการช่วยเหลือทำนุบำรุงศาสนาอีกทั้งช่วยงานบุคลอื่น จึงช่วยงานพ่อดำมาตลอด เมื่อครั้งศึกษาจบประถมศึกษา 5 ตนเองหยุดการเรียนและได้ออกมาทำการเกษตรกรรม ในระหว่างนั้นเองได้ฝึกฝนการแทงหยวกหลังจากที่ตนเสร็จภารกิจจากงานการเกษตร ตกค่ำก็ใช้เวลาที่เหลือฝึกฝนการแทงหยวกโดยเริ่มจากการฝึกแทงลายพื้นฐาน คือ ลายฟันปลา ลายฟันสาม และลายฟันห้า ต่อมาในปี พ.ศ.2519 ตนเองได้เริ่มทำอย่างจริงจัง | วัยเด็ก : เป็นคนที่ชื่นชอบงานที่พ่อคำ ยายอด ทำอยู่เล็งเห็นว่าเป็นงานที่รักษาวัฒนธรรมไทยและเป็นการช่วยเหลือทำนุบำรุงศาสนาอีกทั้งช่วยงานบุคลอื่น จึงช่วยงานพ่อดำมาตลอด เมื่อครั้งศึกษาจบประถมศึกษา 5 ตนเองหยุดการเรียนและได้ออกมาทำการเกษตรกรรม ในระหว่างนั้นเองได้ฝึกฝนการแทงหยวกหลังจากที่ตนเสร็จภารกิจจากงานการเกษตร ตกค่ำก็ใช้เวลาที่เหลือฝึกฝนการแทงหยวกโดยเริ่มจากการฝึกแทงลายพื้นฐาน คือ ลายฟันปลา ลายฟันสาม และลายฟันห้า ต่อมาในปี พ.ศ.2519 ตนเองได้เริ่มทำอย่างจริงจัง | ||
[[ไฟล์:2 การแทงหยวกลายฟันปลา.jpg|500px|thumb|center]] | [[ไฟล์:2 การแทงหยวกลายฟันปลา.jpg|500px|thumb|center]] | ||
− | <p align = "center"> '''ภาพที่ | + | <p align = "center"> '''ภาพที่ 4 การแทงหยวกลายฟันปลา และ ฟันห้า''' </p> |
[[ไฟล์:3 การแทงหยวกต่างๆพร้อมประกอบชิ้นงาน.jpg|500px|thumb|center]] | [[ไฟล์:3 การแทงหยวกต่างๆพร้อมประกอบชิ้นงาน.jpg|500px|thumb|center]] | ||
− | <p align = "center"> '''ภาพที่ | + | <p align = "center"> '''ภาพที่ 5 การแทงหยวกต่าง ๆ พร้อมประกอบชิ้นงาน''' </p> |
ในปี พ.ศ.2520 จนถึง พ.ศ.2531 (11 พรรษา) ได้อุปสมบท ณ วัดไตรภูมิ ตำบลพรานกระต่าย อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร และได้เข้าศึกษาจนสำเร็จระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนักธรรมชั้นเอก ซึ่งเป็นระดับการศึกษาทางพุทธศาสนาในประเทศไทย แผนกธรรม เป็นชั้นสูงสุดของการศึกษาระดับพื้นฐานของพระสงฆ์ สามเณรในประเทศไทย ซึ่งความสามารถในการแทงหยวกได้รับอิทธิพลมาจากบิดา คือ นายคำ ยายอด ซึ่งคุณพ่อคำได้ร่ำเรียนวิชาการแทงหยวกเมื่อครั้งอุปสมบท ณ วัดเสด็จ อำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งในบรรดาพี่น้องของตนเองไม่มีใครสืบทอดงานจากพ่อคำเลย อาจารย์นูญด้วยความรักที่มีให้พ่อคำตั้งใจที่จะสืบทอดงานของพ่อคำไม่ได้คิดทำเพื่อคนอื่นตั้งใจทำให้พ่อ อุทิศกำลังกายและใจ ความรู้และความสามารถเพื่อประโยชน์ต่อสังคม และในปี พ.ศ.2535 นายธรรมนูญ ยายอด สมรสกับ นางจิราภรณ์ ยายอด มีบุตร 1 คน คือ นายปรัชญา ยายอด ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร | ในปี พ.ศ.2520 จนถึง พ.ศ.2531 (11 พรรษา) ได้อุปสมบท ณ วัดไตรภูมิ ตำบลพรานกระต่าย อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร และได้เข้าศึกษาจนสำเร็จระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนักธรรมชั้นเอก ซึ่งเป็นระดับการศึกษาทางพุทธศาสนาในประเทศไทย แผนกธรรม เป็นชั้นสูงสุดของการศึกษาระดับพื้นฐานของพระสงฆ์ สามเณรในประเทศไทย ซึ่งความสามารถในการแทงหยวกได้รับอิทธิพลมาจากบิดา คือ นายคำ ยายอด ซึ่งคุณพ่อคำได้ร่ำเรียนวิชาการแทงหยวกเมื่อครั้งอุปสมบท ณ วัดเสด็จ อำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งในบรรดาพี่น้องของตนเองไม่มีใครสืบทอดงานจากพ่อคำเลย อาจารย์นูญด้วยความรักที่มีให้พ่อคำตั้งใจที่จะสืบทอดงานของพ่อคำไม่ได้คิดทำเพื่อคนอื่นตั้งใจทำให้พ่อ อุทิศกำลังกายและใจ ความรู้และความสามารถเพื่อประโยชน์ต่อสังคม และในปี พ.ศ.2535 นายธรรมนูญ ยายอด สมรสกับ นางจิราภรณ์ ยายอด มีบุตร 1 คน คือ นายปรัชญา ยายอด ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร | ||
+ | [[ไฟล์:ภาพที่ 3 ภรรยาและบุตร.png|500px|thumb|center]] | ||
+ | <p align = "center"> '''ภาพที่ 6 ภรรยาและบุตรของนายธรรมนูญ ยายอด''' </p> | ||
บรรดาลูกศิษย์ของอาจารย์นูญ มีหลายท่าน แต่ปัจจุบันได้เสียชีวิตไปหลายคน และบางคนก็อยู่ต่างอำเภอกัน คือ | บรรดาลูกศิษย์ของอาจารย์นูญ มีหลายท่าน แต่ปัจจุบันได้เสียชีวิตไปหลายคน และบางคนก็อยู่ต่างอำเภอกัน คือ | ||
นายจรัญ บุญกลอน (เสียชีวิต เมษายน พ.ศ.2561) อาจารย์นูญกล่าวว่า ศิษย์เอกที่เก่งที่สุด เก่งกว่าตนเองเสียอีก เพราะนายจรัญเป็นความที่มีความคิดสร้างสรรค์มักชอบคิดค้นลายใหม่ ๆ อยู่เสมอและทำออกมาได้สวยสดงดงามเสียยิ่งกว่าอาจารย์ | นายจรัญ บุญกลอน (เสียชีวิต เมษายน พ.ศ.2561) อาจารย์นูญกล่าวว่า ศิษย์เอกที่เก่งที่สุด เก่งกว่าตนเองเสียอีก เพราะนายจรัญเป็นความที่มีความคิดสร้างสรรค์มักชอบคิดค้นลายใหม่ ๆ อยู่เสมอและทำออกมาได้สวยสดงดงามเสียยิ่งกว่าอาจารย์ | ||
นายวินัย ชูพันธ์ (เสียชีวิต) เป็นศิษย์ที่มีทั้งความรู้และความสามารถหลากหลายด้าน นอกจากการแทงหยวกแล้ว ยังประกอบอาชีพเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอพรานกระต่าย | นายวินัย ชูพันธ์ (เสียชีวิต) เป็นศิษย์ที่มีทั้งความรู้และความสามารถหลากหลายด้าน นอกจากการแทงหยวกแล้ว ยังประกอบอาชีพเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอพรานกระต่าย | ||
[[ไฟล์:4 นายวินัย.jpg|500px|thumb|center]] | [[ไฟล์:4 นายวินัย.jpg|500px|thumb|center]] | ||
− | <p align = "center"> '''ภาพที่ | + | <p align = "center"> '''ภาพที่ 7 นายวินัย ชูพันธ์ (คนกลาง)''' </p> |
นายลือ (ทิดลือ อาจารย์นูญจำชื่อ-สกุล จริงไม่ได้และเสียชีวิต) | นายลือ (ทิดลือ อาจารย์นูญจำชื่อ-สกุล จริงไม่ได้และเสียชีวิต) | ||
อาจารย์เผื่อน (เจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร และเสียชีวิต) | อาจารย์เผื่อน (เจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร และเสียชีวิต) | ||
[[ไฟล์:5 การทำการแทงหยวกกับลูกศิษย์.jpg|500px|thumb|center]] | [[ไฟล์:5 การทำการแทงหยวกกับลูกศิษย์.jpg|500px|thumb|center]] | ||
− | <p align = "center"> '''ภาพที่ | + | <p align = "center"> '''ภาพที่ 8 การทำการแทงหยวกกับลูกศิษย์''' </p> |
การแทงหยวก เป็นศิลปะที่สืบทอดจากบรรพบุรุษมาหลายร้อยปี ซึ่งเป็นการทำให้สถานที่หรือประดับประดาในแหล่งต่าง ๆ เราสามารถใช้การแทงหยวกได้หลากหลายประเพณีหลากหลายพิธีกรรม ไม่ว่าจะเป็น งานบวช งานแต่งงาน งานกฐิน-ผ้าป่า ประดับรถแห่ งานศพ เมรุเผาศพ ฯลฯ ไม่ว่างานมงคลหรืองานอวมงคลก็สามารถใช้การแทงหยวกประดับได้ทั้งสิ้น ซึ่งมีเครื่องมือ-อุปกรณ์ และวิธีการแทงหยวก ดังนี้ | การแทงหยวก เป็นศิลปะที่สืบทอดจากบรรพบุรุษมาหลายร้อยปี ซึ่งเป็นการทำให้สถานที่หรือประดับประดาในแหล่งต่าง ๆ เราสามารถใช้การแทงหยวกได้หลากหลายประเพณีหลากหลายพิธีกรรม ไม่ว่าจะเป็น งานบวช งานแต่งงาน งานกฐิน-ผ้าป่า ประดับรถแห่ งานศพ เมรุเผาศพ ฯลฯ ไม่ว่างานมงคลหรืองานอวมงคลก็สามารถใช้การแทงหยวกประดับได้ทั้งสิ้น ซึ่งมีเครื่องมือ-อุปกรณ์ และวิธีการแทงหยวก ดังนี้ | ||
1. กระบวนการแทงหยวกนั้น ต้องเริ่มจากการไหว้ครู เพื่อรำลึกถึงครูอาจารย์ ประกอบด้วย | 1. กระบวนการแทงหยวกนั้น ต้องเริ่มจากการไหว้ครู เพื่อรำลึกถึงครูอาจารย์ ประกอบด้วย | ||
แถว 43: | แถว 47: | ||
• ผ้าขาวม้า 1 ผืน | • ผ้าขาวม้า 1 ผืน | ||
• เงินค่าครู 142 บาท ในส่วนของค่าแรงนั้นไม่ได้เรียกร้องแล้วแต่จะให้ | • เงินค่าครู 142 บาท ในส่วนของค่าแรงนั้นไม่ได้เรียกร้องแล้วแต่จะให้ | ||
+ | [[ไฟล์:ภาพที่ 5 พิธีไหว้ครู.png|500px|thumb|center]] | ||
+ | <p align = "center"> '''ภาพที่ 9 พิธีไหว้ครูช่างแทงหยวก''' </p> | ||
[[ไฟล์:6 มีดประจำตัวช่างแทงหยวก.jpg|500px|thumb|center]] | [[ไฟล์:6 มีดประจำตัวช่างแทงหยวก.jpg|500px|thumb|center]] | ||
− | <p align = "center"> '''ภาพที่ | + | <p align = "center"> '''ภาพที่ 10 มีดประจำตัวช่างแทงหยวก ในพิธีการไหว้ครูก่อนเริ่มการแทงหยวก''' </p> |
2. อุปกรณ์ในการแทงหยวกประกอบด้วย | 2. อุปกรณ์ในการแทงหยวกประกอบด้วย | ||
• มีดสำหรับแทงหยวก | • มีดสำหรับแทงหยวก | ||
แถว 51: | แถว 57: | ||
• กระดาษสี | • กระดาษสี | ||
'''มีดสำหรับแทงหยวก''' เป็นเครื่องมือหลัก ช่างแต่ละคนจะมีมีดแทงหยวกเป็นของส่วนตัว ซึ่งอาจารย์นูญมีมีดแทงหยวกของตนเอง 2 ชุดและยังเก็บมีดของพ่อคำ ยายอด เก็บไว้ระลึกถึงและใช้ในการไหว้ครูทุกครั้งที่ทำการแทงหยวก | '''มีดสำหรับแทงหยวก''' เป็นเครื่องมือหลัก ช่างแต่ละคนจะมีมีดแทงหยวกเป็นของส่วนตัว ซึ่งอาจารย์นูญมีมีดแทงหยวกของตนเอง 2 ชุดและยังเก็บมีดของพ่อคำ ยายอด เก็บไว้ระลึกถึงและใช้ในการไหว้ครูทุกครั้งที่ทำการแทงหยวก | ||
+ | [[ไฟล์:ภาพที่ 6 มีดแทงหยวก.jpg|500px|thumb|center]] | ||
+ | <p align = "center"> '''ภาพที่ 11 มีดแทงหยวกของพ่อคำ ยายอด (บิดาของนายธรรมนูญ ยายอด)''' </p> | ||
'''ตอก''' เป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับประกอบเข้าเป็นส่วนต่าง ๆ ซึ่งตอกที่ใช้จะมีหลายขนาด เนื่องจากการประกอบเข้าแต่ละส่วนของหยวกเข้าหลายรูปแบบ | '''ตอก''' เป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับประกอบเข้าเป็นส่วนต่าง ๆ ซึ่งตอกที่ใช้จะมีหลายขนาด เนื่องจากการประกอบเข้าแต่ละส่วนของหยวกเข้าหลายรูปแบบ | ||
[[ไฟล์:7 ตอกใช้สำหรับประกอบเข้าเป็นส่วนต่างๆ.jpg|500px|thumb|center]] | [[ไฟล์:7 ตอกใช้สำหรับประกอบเข้าเป็นส่วนต่างๆ.jpg|500px|thumb|center]] | ||
− | <p align = "center"> '''ภาพที่ | + | <p align = "center"> '''ภาพที่ 12 ตอกใช้สำหรับประกอบเข้าเป็นส่วนต่างๆ ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างตามการใช้งาน''' </p> |
[[ไฟล์:8 การประกอบคุมหยวกโดยการใช้ตอก.jpg|500px|thumb|center]] | [[ไฟล์:8 การประกอบคุมหยวกโดยการใช้ตอก.jpg|500px|thumb|center]] | ||
− | <p align = "center"> '''ภาพที่ | + | <p align = "center"> '''ภาพที่ 13 การประกอบคุมหยวกโดยการใช้ตอก''' </p> |
'''ต้นกล้วยตานี''' ที่ต้องกล้วยตานีเพราะไม่แตกง่าย ปัจจุบันต้นกล้วยตานีหายากและมีขนาดไม่เหมาะสมสำหรับใช้งานแต่ก็ยังพอหาได้ หาไม่มากล้วยตานีแล้วสามารถใช้ต้นกล้วยน้ำว้าแทน โดยไม่ว่าจะเป็นกล้วยตานีหรือกล้วยน้ำว้าหลักการคือ ต้องเป็นต้นกล้วยสาว ต้นกล้วยที่ยังไม่มีเครือ หรือยังไม่ออกหวีกล้วย ต้นกล้วยจะอ่อนแทงลวดลายได้ง่ายและงดงาม | '''ต้นกล้วยตานี''' ที่ต้องกล้วยตานีเพราะไม่แตกง่าย ปัจจุบันต้นกล้วยตานีหายากและมีขนาดไม่เหมาะสมสำหรับใช้งานแต่ก็ยังพอหาได้ หาไม่มากล้วยตานีแล้วสามารถใช้ต้นกล้วยน้ำว้าแทน โดยไม่ว่าจะเป็นกล้วยตานีหรือกล้วยน้ำว้าหลักการคือ ต้องเป็นต้นกล้วยสาว ต้นกล้วยที่ยังไม่มีเครือ หรือยังไม่ออกหวีกล้วย ต้นกล้วยจะอ่อนแทงลวดลายได้ง่ายและงดงาม | ||
[[ไฟล์:9 กล้วยตานีที่นำมาลอกกาบก่อนการแทงหยวก.jpg|500px|thumb|center]] | [[ไฟล์:9 กล้วยตานีที่นำมาลอกกาบก่อนการแทงหยวก.jpg|500px|thumb|center]] | ||
− | <p align = "center"> '''ภาพที่ | + | <p align = "center"> '''ภาพที่ 14 กล้วยตานีที่นำมาลอกกาบก่อนการแทงหยวก''' </p> |
'''กระดาษสี''' ใช้สำหรับรองรับลวดลายต้นกล้วยให้ปรากฏชัดเจนและตัดเพื่อตกแต่งให้มีสีสันสวยงามมากขึ้น กระดาษสีจะต้องมีทักษะในการตัดให้ชำนาญจะออกมางดงาม | '''กระดาษสี''' ใช้สำหรับรองรับลวดลายต้นกล้วยให้ปรากฏชัดเจนและตัดเพื่อตกแต่งให้มีสีสันสวยงามมากขึ้น กระดาษสีจะต้องมีทักษะในการตัดให้ชำนาญจะออกมางดงาม | ||
[[ไฟล์:10 กระดาษสีที่ตัดแล้ว.jpg|500px|thumb|center]] | [[ไฟล์:10 กระดาษสีที่ตัดแล้ว.jpg|500px|thumb|center]] | ||
− | <p align = "center"> '''ภาพที่ | + | <p align = "center"> '''ภาพที่ 15 กระดาษสีที่ตัดแล้ว จะนำไปตกแต่งประดับประดางานแทงหยวก''' </p> |
[[ไฟล์:11 ผลงานของลูกศิษย์.jpg|500px|thumb|center]] | [[ไฟล์:11 ผลงานของลูกศิษย์.jpg|500px|thumb|center]] | ||
− | <p align = "center"> '''ภาพที่ | + | <p align = "center"> '''ภาพที่ 16 ผลงานของลูกศิษย์ ที่ใช้กระดาษสีรองซ้อนให้สวยงาม''' </p> |
ขั้นตอนในการแทงหยวกและประกอบเข้าส่วนเป็นลายชุดนั้น มี 3 ขั้นตอน ดังนี้ | ขั้นตอนในการแทงหยวกและประกอบเข้าส่วนเป็นลายชุดนั้น มี 3 ขั้นตอน ดังนี้ | ||
1. ขั้นเตรียมหยวกกล้วย | 1. ขั้นเตรียมหยวกกล้วย | ||
2. ขั้นแทงลวดลายลงบนหยวก | 2. ขั้นแทงลวดลายลงบนหยวก | ||
3. ขั้นประกอบเป็นลายชุด ซึ่งแต่ละขั้นตอนนั้น | 3. ขั้นประกอบเป็นลายชุด ซึ่งแต่ละขั้นตอนนั้น | ||
+ | [[ไฟล์:ภาพที่ 7 การแทงลวดลาย.png|500px|thumb|center]] | ||
+ | <p align = "center"> '''ภาพที่ 17 การแทงลวดลายลงบนหยวก''' </p> | ||
+ | [[ไฟล์:ภาพที่ 8 การประกอบ.png|500px|thumb|center]] | ||
+ | <p align = "center"> '''ภาพที่ 18 การประกอบเป็นลายชุด''' </p> | ||
+ | |||
==='''ความชำนาญ/ความสนใจ'''=== | ==='''ความชำนาญ/ความสนใจ'''=== | ||
• ชำนาญงานไม้ | • ชำนาญงานไม้ | ||
แถว 77: | แถว 90: | ||
การแทงหยวกเป็นศิลปวัฒนธรรมที่สืบทอดมาเนิ่นนาน ดังนั้นจึงมีลักษณะงานแทงหยวกแบบทั่วไป แต่อาจารย์นูญได้ริเริ่มสร้างสรรค์ดัดแปลงให้ดูสร้างสรรค์ขึ้น โดยงานแรกที่ทำแตกต่างไปจากเดิม คืองานทำบุญ 7 วันของมารดา นางมาลัย ยายอด ซึ่งได้จัดทำเป็นแท่นหลายชั้นเพื่อใช้วางภาพถ่ายและสิ่งของอื่น ซึ่งอาจารย์นูญมีความภาคภูมิใจในงานนี้มากที่สุด | การแทงหยวกเป็นศิลปวัฒนธรรมที่สืบทอดมาเนิ่นนาน ดังนั้นจึงมีลักษณะงานแทงหยวกแบบทั่วไป แต่อาจารย์นูญได้ริเริ่มสร้างสรรค์ดัดแปลงให้ดูสร้างสรรค์ขึ้น โดยงานแรกที่ทำแตกต่างไปจากเดิม คืองานทำบุญ 7 วันของมารดา นางมาลัย ยายอด ซึ่งได้จัดทำเป็นแท่นหลายชั้นเพื่อใช้วางภาพถ่ายและสิ่งของอื่น ซึ่งอาจารย์นูญมีความภาคภูมิใจในงานนี้มากที่สุด | ||
แต่ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา เนื่องจากงานแทงหยวกเป็นงานที่ใช้วัสดุธรรมชาติจึงเป็นต้องทำสด ใช้วันต่อวัน งานที่ใหญ่ก็ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์มากขึ้น จำนวนช่างมากขึ้น อีกทั้งต้องทำงานแข่งขันกับเวลาเพราะต้นกล้วยอาจเหี่ยวทำให้ไม่สวยงามเท่าที่ควร งานชิ้นนั้น คือ งานศพของลุงเขียว นิลรัตน์ ญาติผู้ใหญ่ที่อาจารย์นูญเคารพรัก อีกทั้งเป็นเพื่อนสนิทของพ่อคำ ยายอด บิดาของอาจารย์นูญอีกด้วย ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้ที่มีจิตใจรักในศิลปวัฒนธรรม มีคุณธรรมและศิลธรรม มีจิตใจช่วยงานวัดในเขตอำเภอพรานกระต่ายอยู่เสมอ กล่าวได้ว่า “ลุงเขียวเป็นคนบอกบุญเพราะวาจาดี ส่วนพ่อคำเป็นคนลงมือทำเพราะมีฝีมือทางงานช่าง” ก็ว่าได้ และลุงเขียวก็เป็นบุคคลเก่าแก่ เป็นที่รักของชาวพรานกระต่าย มีผู้คนรู้จักมากมาย งานศพจึงต้องจัดให้สมเกรียติจึงทำให้ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา อีกหนึ่งผลงานที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันคืองานศพของนายหวัด ตันเจริญ เป็นบุคคลเก่าแก่ของอำเภอพรานกระต่ายมีบุตรรับราชการในอำเภอพรานกระต่ายหลายคนและเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีจึงจัดงานอย่างสมเกียรติผู้วายชน เมื่อครั้งที่ยังมีลูกศิษย์ช่วยงาน ได้รับเชิญให้ไปช่วยงานแทงหยวกประกวดขบวนรถประดับจากกล้วยไข่และพืชผลทางการเกษตรของแต่ละอำเภอที่จะต้องส่งเข้าประกวดเป็นเวลาหลายปีซึ่งเป็นอีกงานหนึ่งที่อาจารย์นูญภูมิใจที่ได้ช่วยเหลืองานของบ้านเกิด | แต่ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา เนื่องจากงานแทงหยวกเป็นงานที่ใช้วัสดุธรรมชาติจึงเป็นต้องทำสด ใช้วันต่อวัน งานที่ใหญ่ก็ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์มากขึ้น จำนวนช่างมากขึ้น อีกทั้งต้องทำงานแข่งขันกับเวลาเพราะต้นกล้วยอาจเหี่ยวทำให้ไม่สวยงามเท่าที่ควร งานชิ้นนั้น คือ งานศพของลุงเขียว นิลรัตน์ ญาติผู้ใหญ่ที่อาจารย์นูญเคารพรัก อีกทั้งเป็นเพื่อนสนิทของพ่อคำ ยายอด บิดาของอาจารย์นูญอีกด้วย ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้ที่มีจิตใจรักในศิลปวัฒนธรรม มีคุณธรรมและศิลธรรม มีจิตใจช่วยงานวัดในเขตอำเภอพรานกระต่ายอยู่เสมอ กล่าวได้ว่า “ลุงเขียวเป็นคนบอกบุญเพราะวาจาดี ส่วนพ่อคำเป็นคนลงมือทำเพราะมีฝีมือทางงานช่าง” ก็ว่าได้ และลุงเขียวก็เป็นบุคคลเก่าแก่ เป็นที่รักของชาวพรานกระต่าย มีผู้คนรู้จักมากมาย งานศพจึงต้องจัดให้สมเกรียติจึงทำให้ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา อีกหนึ่งผลงานที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันคืองานศพของนายหวัด ตันเจริญ เป็นบุคคลเก่าแก่ของอำเภอพรานกระต่ายมีบุตรรับราชการในอำเภอพรานกระต่ายหลายคนและเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีจึงจัดงานอย่างสมเกียรติผู้วายชน เมื่อครั้งที่ยังมีลูกศิษย์ช่วยงาน ได้รับเชิญให้ไปช่วยงานแทงหยวกประกวดขบวนรถประดับจากกล้วยไข่และพืชผลทางการเกษตรของแต่ละอำเภอที่จะต้องส่งเข้าประกวดเป็นเวลาหลายปีซึ่งเป็นอีกงานหนึ่งที่อาจารย์นูญภูมิใจที่ได้ช่วยเหลืองานของบ้านเกิด | ||
+ | [[ไฟล์:ภาพที่ 10 ผลงานการแทงหยวก.png|thumb|center]] | ||
+ | <p align = "center"> '''ภาพที่ 19 ผลงานการแทงหยวกประดับงานศพ นายเขียว นิลรัตน์''' </p> | ||
+ | [[ไฟล์:ภาพที่ 11 ผลงานการแทงหยวก.png|thumb|center]] | ||
+ | <p align = "center"> '''ภาพที่ 20 ผลงานการแทงหยวกประดับงานศพนายหวัด ตันเจริญ''' </p> | ||
+ | [[ไฟล์:ภาพที่ 12 ผลงานการแทงหยวก.png|400px|thumb|center]] | ||
+ | <p align = "center"> '''ภาพที่21 งานทำบุญ 7 วันของมารดา นางมาลัย ยายอด''' </p> | ||
+ | |||
==='''ผลงาน/เกียรติคุณ/รางวัลอื่น ๆ'''=== | ==='''ผลงาน/เกียรติคุณ/รางวัลอื่น ๆ'''=== | ||
พ่อคำ ยายอด เคยได้รับโล่บุคคลด้านศิลปวัฒนธรรม จากผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร แต่ภาพถ่ายและโล่ได้หายไป ซึ่งรางวัลนี้จะมอบให้แก่อาจารย์นูญแต่ตนเองเห็นว่าพ่อคำเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่ตนเองและผู้อื่นเป็นจำนวนมากอละตนเองก็ยังเด็กจึงเห็นควรให้รางวัลนี้แก่พ่อคำมากกว่า | พ่อคำ ยายอด เคยได้รับโล่บุคคลด้านศิลปวัฒนธรรม จากผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร แต่ภาพถ่ายและโล่ได้หายไป ซึ่งรางวัลนี้จะมอบให้แก่อาจารย์นูญแต่ตนเองเห็นว่าพ่อคำเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่ตนเองและผู้อื่นเป็นจำนวนมากอละตนเองก็ยังเด็กจึงเห็นควรให้รางวัลนี้แก่พ่อคำมากกว่า | ||
==='''แนวทางการปฏิบัติ/การดำเนินชีวิต'''=== | ==='''แนวทางการปฏิบัติ/การดำเนินชีวิต'''=== | ||
+ | [[ไฟล์:ภาพที่ 13 นายธรรมนูญ.jpg|400px|thumb|center]] | ||
+ | <p align = "center"> '''ภาพที่ 22 นายธรรมนูญ ยายอดทำกิจการค้าขาย ใช้ชีวิตอย่าพอเพียงและเรียบง่าย''' </p> | ||
“ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย” ความหมายคือ อย่าแซงหน้าใจเพราะรู้หน้าไม่รู้ใจ เขาจะเล่นงานเราเมื่อไรก็ไม่รู้ ตอนบวชนั้นอาจารย์นูญได้รับความชื่นชอบด้วยลีลาการเทศที่เข้าถึงใจจึงได้รับการนิมนต์ให้ไปเทศบ่อยครั้ง แต่ท่านขอให้หมุนเวียนให้ท่านอื่นด้วยเรียงไปตามลำดับ พระท่านอื่นก็มีความสามารถในการเทศน์เช่นกัน | “ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย” ความหมายคือ อย่าแซงหน้าใจเพราะรู้หน้าไม่รู้ใจ เขาจะเล่นงานเราเมื่อไรก็ไม่รู้ ตอนบวชนั้นอาจารย์นูญได้รับความชื่นชอบด้วยลีลาการเทศที่เข้าถึงใจจึงได้รับการนิมนต์ให้ไปเทศบ่อยครั้ง แต่ท่านขอให้หมุนเวียนให้ท่านอื่นด้วยเรียงไปตามลำดับ พระท่านอื่นก็มีความสามารถในการเทศน์เช่นกัน | ||
“อย่าโกงกิน ซื้อกินไม่หมด คิดกินไม่นาน” ความหมายคือ การมีความซื่อสัตย์จะทำให้คนเชื่อใจ ไม่มีวันอดตาย แต่หากเป็นคนที่มีนิสัยคดโกง แม้จะมีคนให้ผลประโยชน์แต่เมื่อไปโกงแล้วเค้าจับได้ก็จะไม่คบค้าสมาคมด้วย ในที่สุดก็จะทุกข์ยาก | “อย่าโกงกิน ซื้อกินไม่หมด คิดกินไม่นาน” ความหมายคือ การมีความซื่อสัตย์จะทำให้คนเชื่อใจ ไม่มีวันอดตาย แต่หากเป็นคนที่มีนิสัยคดโกง แม้จะมีคนให้ผลประโยชน์แต่เมื่อไปโกงแล้วเค้าจับได้ก็จะไม่คบค้าสมาคมด้วย ในที่สุดก็จะทุกข์ยาก | ||
ศิลปวัฒนธรรมไทยนั้น “บรรพบรุษทำมาไม่ใช่แค่ปีสองปี คนรุ่นใหม่เผาทิ้งหมด ต้องรักษาไว้ (เสียใจ)” ถ้าไม่มีใครสนใจก็จะสูญหาย คนรุ่นหลังเป็นรั่วของชาติหากไม่สืบทอดก็จะหมดไป | ศิลปวัฒนธรรมไทยนั้น “บรรพบรุษทำมาไม่ใช่แค่ปีสองปี คนรุ่นใหม่เผาทิ้งหมด ต้องรักษาไว้ (เสียใจ)” ถ้าไม่มีใครสนใจก็จะสูญหาย คนรุ่นหลังเป็นรั่วของชาติหากไม่สืบทอดก็จะหมดไป | ||
อาจารย์นูญ กล่าวทิ้งท้ายว่า “มาฝึกกันเสียตอนนี้ ไปปลุกในเมรุให้มาสอนกันไม่ได้นะ” | อาจารย์นูญ กล่าวทิ้งท้ายว่า “มาฝึกกันเสียตอนนี้ ไปปลุกในเมรุให้มาสอนกันไม่ได้นะ” | ||
+ | |||
=='''ข้อมูลการสำรวจ'''== | =='''ข้อมูลการสำรวจ'''== | ||
==='''วัน เดือน ปี ที่สำรวจ'''=== | ==='''วัน เดือน ปี ที่สำรวจ'''=== |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 21:34, 20 กุมภาพันธ์ 2564
ข้อมูลทั่วไป[แก้ไข]
ชื่อบุคคล[แก้ไข]
นายธรรมนูญ ยายอด
ตำแหน่ง[แก้ไข]
เคยดำรงตำแหน่งผู้นำชุมชน เทศบาลตำบลพรานกระต่าย
วัน/เดือน/ปีเกิด[แก้ไข]
28 พฤศจิกายน 2498 อายุ 63 ปี
ภูมิลำเนา[แก้ไข]
เป็นชาวอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร โดยกำเนิด
อาชีพ[แก้ไข]
อาชีพหลัก : ค้าขาย (หีบศพ ดอกไม้จันทน์ เขียนป้ายในงานต่าง ๆ งานไม้ งานตัดกระดาษ พวงมะโหด ตกแต่งงานพิธีกรรม เจ้าพิธีในงานต่าง ๆ) อาชีพเสริม : เกษตรกรรม (ไร่อ้อย)
ที่อยู่[แก้ไข]
บ้านเลขที่ 13 หมู่ 5 ตำบลถ้ำกระต่ายทอง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร
ภาพที่ 1 นายธรรมนูญ ยายอด ช่างแทงหยวก ชาวพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร อายุ 63 ปี
ภาพที่ 2 ป้ายร้านของนายธรรมนูญ ยายอด
ข้อมูลเชิดชูเกียรติ[แก้ไข]
ชีวประวัติ/ความเป็นมา[แก้ไข]
นายธรรมนูญ ยายอด (ชาวบ้านทั่วไปเรียก อาจารย์นูญ) เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ปัจจุบันอายุ 63 ปี บิดาชื่อ นายคำ ยายอด มารดาชื่อนางมาลัย ยายอด ทั้งบิดา-มารดาเป็นชาวพรานกระต่ายโดยกำเนิด ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ มีพี่น้องร่วมบิดาทั้งหมด 3 คน ซึ่งบิดาได้แต่งงานใหม่กับคุณแม่มาลัย ยายอด ซึ่งเป็นมารดาของอาจารย์นูญเนื่องจากภรรยาคนแรกได้เสียชีวิต และมีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา จำนวน 6 คน ซึ่งอาจารย์นูญเป็นบุตรคนที่ 2 พี่น้องส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขายและทำเกษตรกรรม มีเพียง 11 คนที่เป็นพนักงานรัฐวิสากิจ (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอคีรีมาส จังหวัดสุโขทัย)
ภาพที่ 3 ร้านค้าขายของนายธรรมนูญ ยายอด
วัยเด็ก : เป็นคนที่ชื่นชอบงานที่พ่อคำ ยายอด ทำอยู่เล็งเห็นว่าเป็นงานที่รักษาวัฒนธรรมไทยและเป็นการช่วยเหลือทำนุบำรุงศาสนาอีกทั้งช่วยงานบุคลอื่น จึงช่วยงานพ่อดำมาตลอด เมื่อครั้งศึกษาจบประถมศึกษา 5 ตนเองหยุดการเรียนและได้ออกมาทำการเกษตรกรรม ในระหว่างนั้นเองได้ฝึกฝนการแทงหยวกหลังจากที่ตนเสร็จภารกิจจากงานการเกษตร ตกค่ำก็ใช้เวลาที่เหลือฝึกฝนการแทงหยวกโดยเริ่มจากการฝึกแทงลายพื้นฐาน คือ ลายฟันปลา ลายฟันสาม และลายฟันห้า ต่อมาในปี พ.ศ.2519 ตนเองได้เริ่มทำอย่างจริงจัง
ภาพที่ 4 การแทงหยวกลายฟันปลา และ ฟันห้า
ภาพที่ 5 การแทงหยวกต่าง ๆ พร้อมประกอบชิ้นงาน
ในปี พ.ศ.2520 จนถึง พ.ศ.2531 (11 พรรษา) ได้อุปสมบท ณ วัดไตรภูมิ ตำบลพรานกระต่าย อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร และได้เข้าศึกษาจนสำเร็จระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และนักธรรมชั้นเอก ซึ่งเป็นระดับการศึกษาทางพุทธศาสนาในประเทศไทย แผนกธรรม เป็นชั้นสูงสุดของการศึกษาระดับพื้นฐานของพระสงฆ์ สามเณรในประเทศไทย ซึ่งความสามารถในการแทงหยวกได้รับอิทธิพลมาจากบิดา คือ นายคำ ยายอด ซึ่งคุณพ่อคำได้ร่ำเรียนวิชาการแทงหยวกเมื่อครั้งอุปสมบท ณ วัดเสด็จ อำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งในบรรดาพี่น้องของตนเองไม่มีใครสืบทอดงานจากพ่อคำเลย อาจารย์นูญด้วยความรักที่มีให้พ่อคำตั้งใจที่จะสืบทอดงานของพ่อคำไม่ได้คิดทำเพื่อคนอื่นตั้งใจทำให้พ่อ อุทิศกำลังกายและใจ ความรู้และความสามารถเพื่อประโยชน์ต่อสังคม และในปี พ.ศ.2535 นายธรรมนูญ ยายอด สมรสกับ นางจิราภรณ์ ยายอด มีบุตร 1 คน คือ นายปรัชญา ยายอด ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
ภาพที่ 6 ภรรยาและบุตรของนายธรรมนูญ ยายอด
บรรดาลูกศิษย์ของอาจารย์นูญ มีหลายท่าน แต่ปัจจุบันได้เสียชีวิตไปหลายคน และบางคนก็อยู่ต่างอำเภอกัน คือ นายจรัญ บุญกลอน (เสียชีวิต เมษายน พ.ศ.2561) อาจารย์นูญกล่าวว่า ศิษย์เอกที่เก่งที่สุด เก่งกว่าตนเองเสียอีก เพราะนายจรัญเป็นความที่มีความคิดสร้างสรรค์มักชอบคิดค้นลายใหม่ ๆ อยู่เสมอและทำออกมาได้สวยสดงดงามเสียยิ่งกว่าอาจารย์ นายวินัย ชูพันธ์ (เสียชีวิต) เป็นศิษย์ที่มีทั้งความรู้และความสามารถหลากหลายด้าน นอกจากการแทงหยวกแล้ว ยังประกอบอาชีพเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอพรานกระต่าย
ภาพที่ 7 นายวินัย ชูพันธ์ (คนกลาง)
นายลือ (ทิดลือ อาจารย์นูญจำชื่อ-สกุล จริงไม่ได้และเสียชีวิต) อาจารย์เผื่อน (เจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร และเสียชีวิต)
ภาพที่ 8 การทำการแทงหยวกกับลูกศิษย์
การแทงหยวก เป็นศิลปะที่สืบทอดจากบรรพบุรุษมาหลายร้อยปี ซึ่งเป็นการทำให้สถานที่หรือประดับประดาในแหล่งต่าง ๆ เราสามารถใช้การแทงหยวกได้หลากหลายประเพณีหลากหลายพิธีกรรม ไม่ว่าจะเป็น งานบวช งานแต่งงาน งานกฐิน-ผ้าป่า ประดับรถแห่ งานศพ เมรุเผาศพ ฯลฯ ไม่ว่างานมงคลหรืองานอวมงคลก็สามารถใช้การแทงหยวกประดับได้ทั้งสิ้น ซึ่งมีเครื่องมือ-อุปกรณ์ และวิธีการแทงหยวก ดังนี้ 1. กระบวนการแทงหยวกนั้น ต้องเริ่มจากการไหว้ครู เพื่อรำลึกถึงครูอาจารย์ ประกอบด้วย • ธูป 3 ดอก • เทียนขี้ผึ้ง 1 เล่ม • ดอกไม้ 3 สี • สุรา 1 ขวด • ผ้าขาวม้า 1 ผืน • เงินค่าครู 142 บาท ในส่วนของค่าแรงนั้นไม่ได้เรียกร้องแล้วแต่จะให้
ภาพที่ 9 พิธีไหว้ครูช่างแทงหยวก
ภาพที่ 10 มีดประจำตัวช่างแทงหยวก ในพิธีการไหว้ครูก่อนเริ่มการแทงหยวก
2. อุปกรณ์ในการแทงหยวกประกอบด้วย • มีดสำหรับแทงหยวก • ตอก • ต้นกล้วยตานี • กระดาษสี มีดสำหรับแทงหยวก เป็นเครื่องมือหลัก ช่างแต่ละคนจะมีมีดแทงหยวกเป็นของส่วนตัว ซึ่งอาจารย์นูญมีมีดแทงหยวกของตนเอง 2 ชุดและยังเก็บมีดของพ่อคำ ยายอด เก็บไว้ระลึกถึงและใช้ในการไหว้ครูทุกครั้งที่ทำการแทงหยวก
ภาพที่ 11 มีดแทงหยวกของพ่อคำ ยายอด (บิดาของนายธรรมนูญ ยายอด)
ตอก เป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับประกอบเข้าเป็นส่วนต่าง ๆ ซึ่งตอกที่ใช้จะมีหลายขนาด เนื่องจากการประกอบเข้าแต่ละส่วนของหยวกเข้าหลายรูปแบบ
ภาพที่ 12 ตอกใช้สำหรับประกอบเข้าเป็นส่วนต่างๆ ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างตามการใช้งาน
ภาพที่ 13 การประกอบคุมหยวกโดยการใช้ตอก
ต้นกล้วยตานี ที่ต้องกล้วยตานีเพราะไม่แตกง่าย ปัจจุบันต้นกล้วยตานีหายากและมีขนาดไม่เหมาะสมสำหรับใช้งานแต่ก็ยังพอหาได้ หาไม่มากล้วยตานีแล้วสามารถใช้ต้นกล้วยน้ำว้าแทน โดยไม่ว่าจะเป็นกล้วยตานีหรือกล้วยน้ำว้าหลักการคือ ต้องเป็นต้นกล้วยสาว ต้นกล้วยที่ยังไม่มีเครือ หรือยังไม่ออกหวีกล้วย ต้นกล้วยจะอ่อนแทงลวดลายได้ง่ายและงดงาม
ภาพที่ 14 กล้วยตานีที่นำมาลอกกาบก่อนการแทงหยวก
กระดาษสี ใช้สำหรับรองรับลวดลายต้นกล้วยให้ปรากฏชัดเจนและตัดเพื่อตกแต่งให้มีสีสันสวยงามมากขึ้น กระดาษสีจะต้องมีทักษะในการตัดให้ชำนาญจะออกมางดงาม
ภาพที่ 15 กระดาษสีที่ตัดแล้ว จะนำไปตกแต่งประดับประดางานแทงหยวก
ภาพที่ 16 ผลงานของลูกศิษย์ ที่ใช้กระดาษสีรองซ้อนให้สวยงาม
ขั้นตอนในการแทงหยวกและประกอบเข้าส่วนเป็นลายชุดนั้น มี 3 ขั้นตอน ดังนี้ 1. ขั้นเตรียมหยวกกล้วย 2. ขั้นแทงลวดลายลงบนหยวก 3. ขั้นประกอบเป็นลายชุด ซึ่งแต่ละขั้นตอนนั้น
ภาพที่ 17 การแทงลวดลายลงบนหยวก
ภาพที่ 18 การประกอบเป็นลายชุด
ความชำนาญ/ความสนใจ[แก้ไข]
• ชำนาญงานไม้ • ค้าขายหีบศพ/ดอกไม้จันทน์ • เขียนป้ายในงานต่างๆ • งานตัดกระดาษ เช่น พวงมะโหด ตกแต่งงานพิธีกรรม • เจ้าพิธีในงานต่างๆ
ผลงานสำคัญ/ที่สร้างชื่อเสียง[แก้ไข]
การแทงหยวกเป็นศิลปวัฒนธรรมที่สืบทอดมาเนิ่นนาน ดังนั้นจึงมีลักษณะงานแทงหยวกแบบทั่วไป แต่อาจารย์นูญได้ริเริ่มสร้างสรรค์ดัดแปลงให้ดูสร้างสรรค์ขึ้น โดยงานแรกที่ทำแตกต่างไปจากเดิม คืองานทำบุญ 7 วันของมารดา นางมาลัย ยายอด ซึ่งได้จัดทำเป็นแท่นหลายชั้นเพื่อใช้วางภาพถ่ายและสิ่งของอื่น ซึ่งอาจารย์นูญมีความภาคภูมิใจในงานนี้มากที่สุด แต่ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา เนื่องจากงานแทงหยวกเป็นงานที่ใช้วัสดุธรรมชาติจึงเป็นต้องทำสด ใช้วันต่อวัน งานที่ใหญ่ก็ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์มากขึ้น จำนวนช่างมากขึ้น อีกทั้งต้องทำงานแข่งขันกับเวลาเพราะต้นกล้วยอาจเหี่ยวทำให้ไม่สวยงามเท่าที่ควร งานชิ้นนั้น คือ งานศพของลุงเขียว นิลรัตน์ ญาติผู้ใหญ่ที่อาจารย์นูญเคารพรัก อีกทั้งเป็นเพื่อนสนิทของพ่อคำ ยายอด บิดาของอาจารย์นูญอีกด้วย ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้ที่มีจิตใจรักในศิลปวัฒนธรรม มีคุณธรรมและศิลธรรม มีจิตใจช่วยงานวัดในเขตอำเภอพรานกระต่ายอยู่เสมอ กล่าวได้ว่า “ลุงเขียวเป็นคนบอกบุญเพราะวาจาดี ส่วนพ่อคำเป็นคนลงมือทำเพราะมีฝีมือทางงานช่าง” ก็ว่าได้ และลุงเขียวก็เป็นบุคคลเก่าแก่ เป็นที่รักของชาวพรานกระต่าย มีผู้คนรู้จักมากมาย งานศพจึงต้องจัดให้สมเกรียติจึงทำให้ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำมา อีกหนึ่งผลงานที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันคืองานศพของนายหวัด ตันเจริญ เป็นบุคคลเก่าแก่ของอำเภอพรานกระต่ายมีบุตรรับราชการในอำเภอพรานกระต่ายหลายคนและเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีจึงจัดงานอย่างสมเกียรติผู้วายชน เมื่อครั้งที่ยังมีลูกศิษย์ช่วยงาน ได้รับเชิญให้ไปช่วยงานแทงหยวกประกวดขบวนรถประดับจากกล้วยไข่และพืชผลทางการเกษตรของแต่ละอำเภอที่จะต้องส่งเข้าประกวดเป็นเวลาหลายปีซึ่งเป็นอีกงานหนึ่งที่อาจารย์นูญภูมิใจที่ได้ช่วยเหลืองานของบ้านเกิด
ภาพที่ 19 ผลงานการแทงหยวกประดับงานศพ นายเขียว นิลรัตน์
ภาพที่ 20 ผลงานการแทงหยวกประดับงานศพนายหวัด ตันเจริญ
ภาพที่21 งานทำบุญ 7 วันของมารดา นางมาลัย ยายอด
ผลงาน/เกียรติคุณ/รางวัลอื่น ๆ[แก้ไข]
พ่อคำ ยายอด เคยได้รับโล่บุคคลด้านศิลปวัฒนธรรม จากผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร แต่ภาพถ่ายและโล่ได้หายไป ซึ่งรางวัลนี้จะมอบให้แก่อาจารย์นูญแต่ตนเองเห็นว่าพ่อคำเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่ตนเองและผู้อื่นเป็นจำนวนมากอละตนเองก็ยังเด็กจึงเห็นควรให้รางวัลนี้แก่พ่อคำมากกว่า
แนวทางการปฏิบัติ/การดำเนินชีวิต[แก้ไข]
ภาพที่ 22 นายธรรมนูญ ยายอดทำกิจการค้าขาย ใช้ชีวิตอย่าพอเพียงและเรียบง่าย
“ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย” ความหมายคือ อย่าแซงหน้าใจเพราะรู้หน้าไม่รู้ใจ เขาจะเล่นงานเราเมื่อไรก็ไม่รู้ ตอนบวชนั้นอาจารย์นูญได้รับความชื่นชอบด้วยลีลาการเทศที่เข้าถึงใจจึงได้รับการนิมนต์ให้ไปเทศบ่อยครั้ง แต่ท่านขอให้หมุนเวียนให้ท่านอื่นด้วยเรียงไปตามลำดับ พระท่านอื่นก็มีความสามารถในการเทศน์เช่นกัน “อย่าโกงกิน ซื้อกินไม่หมด คิดกินไม่นาน” ความหมายคือ การมีความซื่อสัตย์จะทำให้คนเชื่อใจ ไม่มีวันอดตาย แต่หากเป็นคนที่มีนิสัยคดโกง แม้จะมีคนให้ผลประโยชน์แต่เมื่อไปโกงแล้วเค้าจับได้ก็จะไม่คบค้าสมาคมด้วย ในที่สุดก็จะทุกข์ยาก ศิลปวัฒนธรรมไทยนั้น “บรรพบรุษทำมาไม่ใช่แค่ปีสองปี คนรุ่นใหม่เผาทิ้งหมด ต้องรักษาไว้ (เสียใจ)” ถ้าไม่มีใครสนใจก็จะสูญหาย คนรุ่นหลังเป็นรั่วของชาติหากไม่สืบทอดก็จะหมดไป อาจารย์นูญ กล่าวทิ้งท้ายว่า “มาฝึกกันเสียตอนนี้ ไปปลุกในเมรุให้มาสอนกันไม่ได้นะ”
ข้อมูลการสำรวจ[แก้ไข]
วัน เดือน ปี ที่สำรวจ[แก้ไข]
5 กุมภาพันธ์ 2561 และ 6 พฤษภาคม 2561
วันที่ปรับปรุงข้อมูล[แก้ไข]
-
ผู้สำรวจข้อมูล[แก้ไข]
นางสาวธัญรดี บุญปัน
คำสำคัญ (tag)[แก้ไข]
แทงหยวก, กล้วย, พรานกระต่าย, จังหวัดกำแพงเพชร, ช่างสิบหมู่