ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฐานข้อมูล เรื่อง อัตลักษณ์การแต่งกายของชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน"

จาก KPPStudies
ไบยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
(สร้างหน้าด้วย "=='''ข้อมูลทั่วไป'''== ==='''ชื่อชาติพันธุ์'''=== ไททรงดำ/ ไทยทรง...")
 
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
แถว 12: แถว 12:
 
==='''ประวัติความเป็นมา'''===
 
==='''ประวัติความเป็นมา'''===
 
           ผู้ไทดำหรือไทยทรงดำเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ไทยที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ในแคว้นสิบสองจุไทหรือเมืองแถนหรือเดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม ในปัจจุบัน ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในแถบแม่น้ำดำและแม่น้ำแดง ปัจจุบันอยู่ในเขตเวียดนามเหนือตอนเชื่อมต่อกับลาวและจีนตอนใต้ ผู้ไทดำหรือไทยทรงดำมีชื่อเดิมเรียกกันว่าไทดำ(Black Tai) หรือ ผู่ไต๋ดำ เพราะนิยมใส่เสื้อดำล้วน  ไทดำกลุ่มนี้ได้ถูกกวาดต้อนเข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น  คนไทยภาคกลางเรียกกันว่า “ลาวทรงดำ” เพราะเข้าใจว่าเป็นพวกเดียวกับลาวและอพยพมาพร้อมกับลาวกลุ่มอื่น ๆ ต่อมาชื่อเดิมได้หดหายลง คำว่า “ดำ” หายไปนิยมเรียกกันในปัจจุบันว่า  “ลาวทรง” หรือ “ลาวโซ่ง” ซึ่งไม่ใช่คำเรียกที่ถูกต้อง ที่ถูกต้องคือเรียก ชนกลุ่มนี้ว่าผู้ไทดำ นั่นเอง  ชาวไทดำหรือ ไทยทรงดำถือตนเองว่าเป็นชนชาติไท จึงนิยมเรียกตนเองว่า “ไทดำ” หรือ “ผู้ไต๋ดำ” จากสงครามสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) มาจนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทำให้ไทดำ หรือไทยทรงดำถูกกวาดครัว มาอยู่เพชรบุรี ระยะแรกไทดำตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ตำบลหนองปรง อำเภอเขาย้อย (สมัยพระเจ้าตากสิน และรัชกาลที่ 1) ระยะที่สอง (สมัยรัชกาลที่ 3) โปรดฯ ให้มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ตำบลท่าแร้ง อำเภอบ้านแหลม ไทดำหรือไทยทรงดำ จึงมาตั้งถิ่นฐาน ที่ท่าแร้ง เมื่อปี พ.ศ.2378 - 2381 เนื่องด้วยเหตุผล ทางสงครามเช่นกันสงครามครั้งนั้น พวกลาวพวน พวกลาวเวียง ซึ่งเป็นชนชาติไทยด้วยสาขาหนึ่ง ได้ถูกกวาดครัวมาด้วยกัน เมืองเพชร  จึงประกอบด้วยชนกลุ่มน้อยที่เรียกว่า “สามลาว” อันได้แก่ ไทดำ ลาวพวน และ ลาวเวียง ธรรมชาติของผู้ไทดำ หรือไทยทรงดำ ชอบอยู่ที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึงชอบภูมิประเทศที่เป็นป่าเขา เสมือนถิ่นดั้งเดิมของตน ลาวโซ่งกลุ่มนี้ มิชอบภูมิประเทศที่ท่าแร้ง เพราะโล่งเกินไป จึงได้อพยพย้ายถิ่นฐานบ้านเรือนไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่สะพานยี่หนทุ่งเฟื้อ วังตะโก บ้านสามเรือน เวียงคอย เขาย้อย ตามลำดับ
 
           ผู้ไทดำหรือไทยทรงดำเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ไทยที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ในแคว้นสิบสองจุไทหรือเมืองแถนหรือเดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม ในปัจจุบัน ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในแถบแม่น้ำดำและแม่น้ำแดง ปัจจุบันอยู่ในเขตเวียดนามเหนือตอนเชื่อมต่อกับลาวและจีนตอนใต้ ผู้ไทดำหรือไทยทรงดำมีชื่อเดิมเรียกกันว่าไทดำ(Black Tai) หรือ ผู่ไต๋ดำ เพราะนิยมใส่เสื้อดำล้วน  ไทดำกลุ่มนี้ได้ถูกกวาดต้อนเข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น  คนไทยภาคกลางเรียกกันว่า “ลาวทรงดำ” เพราะเข้าใจว่าเป็นพวกเดียวกับลาวและอพยพมาพร้อมกับลาวกลุ่มอื่น ๆ ต่อมาชื่อเดิมได้หดหายลง คำว่า “ดำ” หายไปนิยมเรียกกันในปัจจุบันว่า  “ลาวทรง” หรือ “ลาวโซ่ง” ซึ่งไม่ใช่คำเรียกที่ถูกต้อง ที่ถูกต้องคือเรียก ชนกลุ่มนี้ว่าผู้ไทดำ นั่นเอง  ชาวไทดำหรือ ไทยทรงดำถือตนเองว่าเป็นชนชาติไท จึงนิยมเรียกตนเองว่า “ไทดำ” หรือ “ผู้ไต๋ดำ” จากสงครามสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) มาจนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทำให้ไทดำ หรือไทยทรงดำถูกกวาดครัว มาอยู่เพชรบุรี ระยะแรกไทดำตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ตำบลหนองปรง อำเภอเขาย้อย (สมัยพระเจ้าตากสิน และรัชกาลที่ 1) ระยะที่สอง (สมัยรัชกาลที่ 3) โปรดฯ ให้มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ตำบลท่าแร้ง อำเภอบ้านแหลม ไทดำหรือไทยทรงดำ จึงมาตั้งถิ่นฐาน ที่ท่าแร้ง เมื่อปี พ.ศ.2378 - 2381 เนื่องด้วยเหตุผล ทางสงครามเช่นกันสงครามครั้งนั้น พวกลาวพวน พวกลาวเวียง ซึ่งเป็นชนชาติไทยด้วยสาขาหนึ่ง ได้ถูกกวาดครัวมาด้วยกัน เมืองเพชร  จึงประกอบด้วยชนกลุ่มน้อยที่เรียกว่า “สามลาว” อันได้แก่ ไทดำ ลาวพวน และ ลาวเวียง ธรรมชาติของผู้ไทดำ หรือไทยทรงดำ ชอบอยู่ที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึงชอบภูมิประเทศที่เป็นป่าเขา เสมือนถิ่นดั้งเดิมของตน ลาวโซ่งกลุ่มนี้ มิชอบภูมิประเทศที่ท่าแร้ง เพราะโล่งเกินไป จึงได้อพยพย้ายถิ่นฐานบ้านเรือนไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่สะพานยี่หนทุ่งเฟื้อ วังตะโก บ้านสามเรือน เวียงคอย เขาย้อย ตามลำดับ
จิรัฎฐ์  เพ็งแดง และคณะ. (บทนำ : 2560) ชนชาติพันธุ์ไทดำเป็นอีกชนชาติหนึ่งที่ได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่ ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เป็นชาว
+
          ชนชาติพันธุ์ไทดำเป็นอีกชนชาติหนึ่งที่ได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่ ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เป็นชาวไทดำกลุ่มหนึ่งที่ได้อพยพมาจากตำบลห้วยท่าช้าง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2508 เพื่อแสวงหาแหล่งทำกินใหม่จึงมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ริมคลองสวนหมาก ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ชาวไทดำกลุ่มนี้ได้นำเอาประเพณี และศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ของชาวไทยดำมาด้วย ทั้งยังคงรักษาวัฒนธรรมของตนอย่างเหนียวแน่น และภาคภูมิใจในเชื้อชาติไทยดำ  
ไทดำกลุ่มหนึ่งที่ได้อพยพมาจากตำบลห้วยท่าช้าง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่ปี  
+
          ตามที่คณะผู้วิจัยได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร (17 ธันวาคม 2559) จากนายเหมือน อินทร์พรหม และนายซ้อน ทองแก้ว ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่ากลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เริ่มต้นจากกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำกลุ่มแรกที่อพยพเข้ามาอยู่ในจังหวัดเพชรบุรี ได้ถูกกวาดต้อนให้ไปอยู่ที่ตำบลท่าแร้ง อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบ ติดชายทะเลไม่เหมาะแก่การทำอาชีพเพาะปลูกที่เป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวไทดำ จึงได้อพยพขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ชาวไทดำได้ลงหลักปักฐานกระจายกันอยู่ในตำบลหนองชุมพล ตำบลบางเค็ม ตำบลสระพัง ตำบลเขาย้อย ตำบลทับคาง ตำบลหนองปรง ตำบลหนองปลาไหล ตำบลห้วยโรง และตำบลห้วยท่าช้าง ซึ่งถือได้ว่าอำเภอเขาย้อยเป็นเมืองแม่ของชาติพันธุ์ไทดำเนื่องจากมีประชากรชาวไทดำคิดเป็นร้อยละ 80 ของพื้นที่และได้ ยึดถือประเพณีความเชื่อแบบดั้งเดิมไว้อย่างเคร่งครัด จนในปี พ.ศ.2508 ได้มีชาวไทดำสองครอบครัว คือ 1. ครอบครัว นายจันทร์ ยอดใส 2. ครอบครัว นายมัน  ยอดใส อพยพจากตำบลห้วยท่าช้าง จังหวัดเพชรบุรี มาแสวงหาที่ทำมาหากินใหม่โดยเดินทางขึ้นมาทางเหนือมาพบแหล่งพื้นที่ทำกินใหม่ ที่ริมคลองสวนหมาก บริเวณตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ต่อมาไม่นาน ในปี พ.ศ.2509 นายต้น  เย็นตั้ง ได้อพยพมายังตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชรตามคำแนะนำของนาย จันทร์ ยอดใส และ นายมันยอดใส และในปี พ.ศ.2511 ได้มีครอบครัวของนายแพ แตมพันธุ์ นายเลี้ยว ร้อยนาค นายเอก เหี้ยมหาญ นายต้น อินทร์พรหม นายพรม อุ่นเป็นนิจ นายมัน ทองแก้ว และนางสมัย พวงแต้ม ครอบครัวที่ได้กล่าวมานี้ได้มาตั้งอยู่ในชุมชนริมคลองสวนหมาก ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ชาวไทดำกลุ่มนี้ได้ยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่นและความเชื่อตามแบบย่างที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมาเมื่อครั้งที่อยู่ ตำบลห้วยท่าช้าง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ไว้อย่างเคร่งครัด
พ.ศ. 2508 เพื่อแสวงหาแหล่งทำกินใหม่จึงมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ริมคลองสวนหมาก  
+
==='''ข้อมูลประชากรศาสตร์'''===
ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ชาวไทดำกลุ่มนี้ได้นำเอาประเพณี และศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ของชาวไทยดำมาด้วย ทั้งยังคงรักษาวัฒนธรรมของตนอย่างเหนียวแน่น และภาคภูมิใจในเชื้อชาติไทยดำ  
+
          จำนวนประชากรใน ตำบลโป่งน้ำร้อน
ตามที่คณะผู้วิจัยได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ ตำบลโป่งน้ำร้อน     อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร (17 ธันวาคม 2559) จากนายเหมือน อินทร์พรหม และ      นายซ้อน ทองแก้ว ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่ากลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน           จังหวัดกำแพงเพชร เริ่มต้นจากกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำกลุ่มแรกที่อพยพเข้ามาอยู่ในจังหวัดเพชรบุรี ได้ถูกกวาดต้อนให้ไปอยู่ที่ตำบลท่าแร้ง   อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบ ติดชายทะเลไม่เหมาะแก่การทำอาชีพเพาะปลูกที่เป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวไทดำ จึงได้อพยพขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ชาวไทดำได้ลงหลักปักฐานกระจายกันอยู่ในตำบลหนองชุมพล ตำบลบางเค็ม ตำบลสระพัง ตำบลเขาย้อย ตำบลทับคาง ตำบลหนองปรง ตำบลหนองปลาไหล ตำบลห้วยโรง และตำบลห้วยท่าช้าง ซึ่งถือได้ว่าอำเภอเขาย้อยเป็นเมืองแม่ของชาติพันธุ์ไทดำเนื่องจากมีประชากรชาวไทดำคิดเป็นร้อยละ 80 ของพื้นที่และได้ ยึดถือประเพณีความเชื่อแบบดั้งเดิมไว้อย่างเคร่งครัด จนในปี พ.ศ.2508 ได้มีชาวไทดำสองครอบครัว คือ 1.ครอบครัว นายจันทร์ ยอดใส 2.ครอบครัว นายมัน  ยอดใส อพยพจากตำบลห้วยท่าช้าง จังหวัดเพชรบุรี มาแสวงหาที่ทำมาหากินใหม่โดยเดินทางขึ้นมาทางเหนือมาพบแหล่งพื้นที่ทำกินใหม่ ที่ริมคลองสวนหมาก บริเวณตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ต่อมาไม่นาน   ในปี พ.ศ.2509 นายต้น  เย็นตั้ง ได้อพยพมายังตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน   จังหวัดกำแพงเพชรตามคำแนะนำของนาย จันทร์ ยอดใส และ นายมันยอดใส และในปี  
+
          จำนวนหลังคาเรือน : 1,688 หลังคาเรือน  
พ.ศ.2511 ได้มีครอบครัวของนายแพ แตมพันธุ์ นายเลี้ยว ร้อยนาค นายเอก เหี้ยมหาญ นายต้น อินทร์พรหม นายพรม อุ่นเป็นนิจ นายมัน ทองแก้ว และนางสมัย พวงแต้ม ครอบครัวที่ได้กล่าวมานี้ได้มาตั้งอยู่ในชุมชนริมคลองสวนหมาก ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ชาวไทดำกลุ่มนี้  ได้ยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่นและความเชื่อตามแบบย่างที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมาเมื่อครั้งที่อยู่ ตำบลห้วยท่าช้าง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ไว้อย่างเคร่งครัด
+
          จำนวนประชากร : 6,881 คน
 
+
==='''ข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์'''===
ข้อมูลประชากรศาสตร์
+
          ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมืองกำแพงเพชร
จำนวนประชากรใน ตำบลโป่งน้ำร้อน
+
          ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน
จำนวนหลังคาเรือน : 1,688 หลังคาเรือน  
+
          ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลสักงาม อำเภอคลองลาน
จำนวนประชากร : 6,881 คน
+
          ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า อำเภออุ้มผาง
 
+
=='''วิถีชีวิต'''==
ข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์
+
          ชาวบ้านในตำบลโป่งน้ำร้อนส่วนมากมีอาชีพเกษตรกรรมและเก็บหาของป่า  
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมืองกำแพงเพชร
+
==='''อาชีพ'''===
ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน
+
          ชาวบ้านในตำบลโป่งน้ำร้อนส่วนมากมีอาชีพเกษตรกรรมและเก็บหาของป่า
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลสักงาม อำเภอคลองลาน
+
==='''การแต่งกาย '''===
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า อำเภออุ้มผาง
+
          มีลักษณะเฉพาะดังนี้ เครื่องแต่งกายของชาวไทยดำแบ่งตามเพศได้ ดังนี้  
 
+
          เครื่องแต่งกายผู้ชาย
วิถีชีวิต
+
              '''1. เสื้อไท''' เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เสื้อคอตั้ง ผ่าหน้า ติดกระดุมเงินจำนวนเป็นเลขคี่ (จำนวนของกระดุมเงินบ่งบอกถึงสถานะร่ำรวย) แขนกระบอก และเอวผายออก
ชาวบ้านในตำบลโป่งน้ำร้อนส่วนมากมีอาชีพเกษตรกรรมและเก็บหาของป่า  
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 1 แสดงเสื้อไทชาวไทยทรงดำ.jpg|thumb|center]]
 
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 1 แสดงเสื้อไทชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>
อาชีพ
+
              '''2. เสื้อฮีชาย''' เสื้อฮี เป็นเสื้อแขนกระบอกคอกลมแขนยาว ทำจากผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม ตกแต่งลวดลายข้างลำตัวและด้านในบริเวณชายเสื้อ และสนกระจกเพื่อความสวยงาม มีกระดุมที่คอ 1 เม็ด
ชาวบ้านในตำบลโป่งน้ำร้อนส่วนมากมีอาชีพเกษตรกรรมและเก็บหาของป่า
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 2 แสดงเสื้อฮีชายชาวไทยทรงดำ.jpg|thumb|center]]
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 2 แสดงเสื้อฮีชายชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>
การแต่งกาย  
+
              '''3. ส้วง (กางเกง)''' ชาวไทยดำเรียกกางเกงว่า ผ้าส้วง มี 2 ประเภท คือ ส้วงฮี (กางเกงขายาว) เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เย็บด้วยมือ ขายาว มีเชือกผูกเอว ลักษณะคล้ายกางเกงขาก๊วยแต่ขากางเกงจะมีขนาดเล็ก  และส้วงก้อม (กางเกงขาสั้น) เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เย็บด้วยมือ มีลีกษณะคล้ายกับส้วงฮีแต่จะสั้นกว่า (3 ส่วน) ซึ่งในสมัยโบราณจะใส่ทั้งชายและหญิงในเวลาทำงาน
มีลักษณะเฉพาะดังนี้ เครื่องแต่งกายของชาวไทยดำแบ่งตามเพศได้ ดังนี้  
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 3 แสดงส้วง.jpg|thumb|center]]
 
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 3 แสดงส้วง (กางเกง)ชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ. กำแพงเพชร''' </p>
เครื่องแต่งกายผู้ชาย
+
          เครื่องแต่งกายของผู้หญิง
1. เสื้อไท  
+
              '''1. เสื้อก้อม''' เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เสื้อคอตั้ง แขนกระบอก ผ่าหน้า ติดกระดุมเงิน 11 เม็ด รัดรูป พับสาบสั้นประมาณ 1 นิ้วเพื่อให้เห็นเข็มขัด
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 4 แสดงเสื้อก้อมชาวไทยทรงดำ.jpg|thumb|center]]
ภาพที่ 1  แสดงเสื้อไทชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ. กำแพงเพชร
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 4 แสดงเสื้อก้อมชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>
เสื้อไท เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เสื้อคอตั้ง ผ่าหน้า ติดกระดุมเงินจำนวนเป็นเลขคี่ (จำนวนของกระดุมเงินบ่งบอกถึงสถานะร่ำรวย) แขนกระบอก และเอวผายออก
+
              '''2. เสื้อฮีหญิง''' เป็นเสื้อคอสามเหลี่ยม แขนกระบอก แขนยาว ลำตัวใหญ่ ด้านนอกมีการตกแต่งลวดลาย บริเวณอกทั้งข้างซ้ายและข้างขวา และขลิบลายที่ปลายแขน ด้านในของเสื้อ มีการตกแต่งลวดลายที่สวยงาม เวลาสวมใส่จะใส่ด้านที่มีลวดลายน้อยไว้ด้านนอก และจะสวมใส่ด้านที่มีลวดลายมากในกรณีที่เสียชีวิตเท่านั้น
2. เสื้อฮีชาย
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 5 แสดงเสื้อฮีหญิงชาวไทยทรงดำ.jpg|500px|thumb|center]]
 
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 5 แสดงเสื้อฮีหญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>
 
+
              '''3. ผ้าซิ่น''' ไทยดำเรียกว่า ซิ่นตา หรือ ซิ่นลายแตงโม เนื่องจากวิธีการทอจะใช้เส้นยืนเป็นเส้นด้ายสีแดงและใช้เส้นพุ่งเป็นสีครามเข้ม มีลวดลายสีครามเป็นริ้วตามตัว ผ้าซิ่นจะมีส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ
+
              1. หัวซิ่น เป็นส่วนบนสุดของซิ่น เป็นผ้าฝ้ายพื้นสีครามเข้ม มีความกว้างประมาณ 9 นิ้ว
 
+
              2. ตัวซิ่น เป็นซิ่นลายริ้วสีฟ้าสลับสีครามเข้มยาวตามลำตัว
 
+
              3. ตีนซิ่น เป็นแถบผ้ากว้างประมาณ 1 นิ้วครึ่ง มีลายขิดสีฟ้า เรียกว่าลายก้านกาง
 
+
              การนุ่งซิ่นของหญิงชาวไทยดำจะนุ่งแบบหน้าสั้นหลังยาว โดยการนุ่งป้ายพับหัวซิ่นทั้งซ้ายและขวามาทบกันไว้ตรงกลางเป็นรูปสามเหลี่ยม ทำให้เดินได้สะดวก  
ภาพที่ 2  แสดงเสื้อฮีชายชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ. กำแพงเพชร
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 6 แสดงผ้าซิ่นหญิงชาวไทยทรงดำ.jpg|thumb|center]]
เสื้อฮี เป็นเสื้อแขนกระบอกคอกลมแขนยาว ทำจากผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม ตกแต่งลวดลายข้างลำตัวและด้านในบริเวณชายเสื้อ และสนกระจกเพื่อความสวยงาม มีกระดุมที่คอ 1 เม็ด
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 6 แสดงผ้าซิ่นหญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>       
3. ส้วง (กางเกง)
+
              '''4. ผ้าเปียว'''
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 7 แสดงผ้าเปียวชาวไทยทรงดำ.jpg|thumb|center]]
ภาพที่ 3  แสดงส้วง (กางเกง)ชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ. กำแพงเพชร
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 7 แสดงผ้าเปียวชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>
ชาวไทยดำเรียกกางเกงว่า ผ้าส้วง มี 2 ประเภท คือ ส้วงฮี (กางเกงขายาว) เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เย็บด้วยมือ ขายาว มีเชือกผูกเอว ลักษณะคล้ายกางเกงขาก๊วยแต่ขากางเกงจะมีขนาดเล็ก  และส้วงก้อม (กางเกงขาสั้น) เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เย็บด้วยมือ มีลีกษณะคล้ายกับส้วงฮีแต่จะสั้นกว่า (3 ส่วน) ซึ่งในสมัยโบราณจะใส่ทั้งชายและหญิงในเวลาทำงาน
+
          เป็นผ้าแถบหรือผ้าสไบ ทำจากผ้าฝ้ายย้อมครามเท่านั้น ปักชายทั้งสองข้างด้วยลายดอกเปียว และถักขอบชายผ้าสลับสี 3 สีได้แก่ สีแดง สีส้ม และสีขาว มีขนาดกว้าง 18 นิ้ว ยาว 72 นิ้ว จะใช้พาดบ่าแต่เมื่องานรื่นเริง เช่น เทศกาลสงกรานต์ผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานจะใช้คล้องคอ ในการเล่นลูกช่วงหากผู้หญิงถูกใจฝ่ายชายก็จะใช้ผ้าที่คล้องคอของตนคล้องให้กับฝ่ายชาย  
เครื่องแต่งกายของผู้หญิง
+
          การแต่งกายของชาวไทยทรงดำทั้งชายและหญิงจะแต่งกายตามวาระโอกาสหรือกิจกรรมที่เข้าร่วม มีลักษณะดังนี้
1. เสื้อก้อม
+
          1. ชุดลำลองหรือชุดอยู่บ้าน   
+
              - ผู้ชาย ใส่กางเกงขาสั้น (ส้วงก้อม) ไม่นิยมสวมเสื้อ หรืออาจมีผ้าขาวม้าพาดบ่า
 
+
              - ผู้หญิง ห่มผ้าแถบ (ผ้าเปียว) และนุ่งซิ่นลายแตงโม
 
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 8 แสดงชุดลำลองหรือชุดอยู่บ้านชาวไทยทรงดำ.jpg|600px|thumb|center]]
 
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 8 แสดงชุดลำลองหรือชุดอยู่บ้านชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>
ภาพที่ 4  แสดงเสื้อก้อมชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ. กำแพงเพชร
+
          2. ชุดทางการ
เสื้อก้อม เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เสื้อคอตั้ง แขนกระบอก ผ่าหน้า ติดกระดุมเงิน 11 เม็ด รัดรูป พับสาบสั้นประมาณ 1 นิ้วเพื่อให้เห็นเข็มขัด
+
              ผู้ชาย สวมเสื้อไท ใส่กางเกงขาสั้น (ส้วงก้อม) หรือกางเกงขายาว (ส้วงฮี)
2. เสื้อฮีหญิง
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 9 แสดงชุดทางการของผู้ชายชาวไทยทรงดำ.jpg|thumb|center]]
ภาพที่ 5  แสดงเสื้อฮีหญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ. กำแพงเพชร
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 9 แสดงชุดทางการของผู้ชายชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>
เสื้อฮีหญิง เป็นเสื้อคอสามเหลี่ยม แขนกระบอก แขนยาว ลำตัวใหญ่ ด้านนอกมีการตกแต่งลวดลาย บริเวณอกทั้งข้างซ้ายและข้างขวา และขลิบลายที่ปลายแขน ด้านในของเสื้อ มีการตกแต่งลวดลายที่สวยงาม เวลาสวมใส่จะใส่ด้านที่มีลวดลายน้อยไว้ด้านนอก และจะสวมใส่ด้านที่มีลวดลายมากในกรณีที่เสียชีวิตเท่านั้น
+
              การแต่งกายชุดทางการของฝ่ายหญิงนั้นผู้หญิง จะสวมสวมเสื้อก้อม นุ่งซิ่นลายแตงโม มีผ้าเปียวพาดบ่า การแต่งกายแบบนี้จะแต่งไปในงานทางการ เช่น การกินเสนเรือน
3. ผ้าซิ่น
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 10 แสดงชุดทางการของผู้หญิงชาวไทยทรงดำ.jpg|thumb|center]]
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 10 แสดงชุดทางการของผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>
ภาพที่ 6  แสดงผ้าซิ่นหญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ. กำแพงเพชร
+
          3. ชุดเพื่อประกอบพิธีกรรม
ผ้าซิ่น ไทยดำเรียกว่า ซิ่นตา หรือ ซิ่นลายแตงโม เนื่องจากวิธีการทอจะใช้เส้นยืนเป็นเส้นด้ายสีแดงและใช้เส้นพุ่งเป็นสีครามเข้ม มีลวดลายสีครามเป็นริ้วตามตัว ผ้าซิ่นจะมีส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ  
+
              ผู้ชาย (ลูกเขย และหลานเขย) สวมเสื้อฮี ใส่กางเกงขาสั้น (ส้วงก้อม) หรือกางเกงขายาว (ส้วงฮี) การแต่งกายเช่นนี้จะทำให้ทราบสถานะของผู้สวมใส่หากอยู่ในพิธีกรรมจะสามารถเรียกใช้ได้หรือขอความช่วยเหลือได้
1. หัวซิ่น เป็นส่วนบนสุดของซิ่น เป็นผ้าฝ้ายพื้นสีครามเข้ม มีความกว้างประมาณ 9 นิ้ว
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 11 แสดงชุดเพื่อประกอบพิธีกรรม.jpg|thumb|center]]
2. ตัวซิ่น เป็นซิ่นลายริ้วสีฟ้าสลับสีครามเข้มยาวตามลำตัว
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 11 แสดงชุดเพื่อประกอบพิธีกรรมของผู้ชายชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>
3. ตีนซิ่น เป็นแถบผ้ากว้างประมาณ 1 นิ้วครึ่ง มีลายขิดสีฟ้า เรียกว่าลายก้านกาง
+
              การแต่งชุดพิธีกรรมของผู้หญิง (ลูกสะใภ้ และหลานสะใภ้) จะสวมสวมเสื้อฮี นุ่งผ้าซิ่นลายแตงโม
การนุ่งซิ่นของหญิงชาวไทยดำจะนุ่งแบบหน้าสั้นหลังยาว โดยการนุ่งป้ายพับหัวซิ่นทั้งซ้ายและขวามาทบกันไว้ตรงกลางเป็นรูปสามเหลี่ยม ทำให้เดินได้สะดวก
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 12 แสดงชุดเพื่อประกอบพิธีกรรม.jpg|thumb|center]]
4. ผ้าเปียว
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 12 แสดงชุดเพื่อประกอบพิธีกรรมของผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร''' </p>
 
+
          ข้อห้ามของการแต่งกายของชาวไทยดำในตำบลโป่งน้ำร้อน
 
+
              1. ลักษณะการนุ่งซิ่นจะนุ่งแบบหน้าสั้นหลังยาว โดนพับหัวซิ่นจากทางซ้ายและขวามาทบกันเป็นสามเหลี่ยมไว้ตรงกลาง
 
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 13 แสดงการนุ่งผ้าซิ่นผู้หญิงชาวไทยทรงดำ.jpg|600px|thumb|center]]
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 13 แสดงการนุ่งผ้าซิ่นผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่ถูกต้อง''' </p> 
 
+
              2. สตรีที่สามีเสียชีวิตจะเลาะตีนซิ่นออก เป็นการไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี
ภาพที่ 7 แสดงผ้าเปียวชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ. กำแพงเพชร
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 14 แสดงการนุ่งผ้าซิ่นผู้หญิงชาวไทยทรงดำ.jpg|thumb|center]]
เป็นผ้าแถบหรือผ้าสไบ ทำจากผ้าฝ้ายย้อมครามเท่านั้น ปักชายทั้งสองข้างด้วยลายดอกเปียว และถักขอบชายผ้าสลับสี 3 สีได้แก่ สีแดง สีส้ม และสีขาว มีขนาดกว้าง 18 นิ้ว ยาว 72 นิ้ว จะใช้
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 14 แสดงการนุ่งผ้าซิ่นผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่เลาะชายซิ้นออก''' </p>
พาดบ่าแต่เมื่องานรื่นเริง  เช่น เทศกาลสงกรานต์ผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานจะใช้คล้องคอ ในการเล่นลูกช่วงหากผู้หญิงถูกใจฝ่ายชายก็จะใช้ผ้าที่คล้องคอของตนคล้องให้กับฝ่ายชาย  
+
              3. ชาวไทดำทั้งชายและหญิงจะสวมใส่เสื้อฮีด้านที่มีลวดลายไม่มากไว้ด้านนอก และสวมเสื้อฮีด้านที่มีลวดลายสวยงามไว้ด้านใน และจะกลับเสื้อฮีด้านในเฉพาะคลุมโลงศพเท่านั้น
การแต่งกายของชาวไทยทรงดำทั้งชายและหญิงจะแต่งกายตามวาระโอกาสหรือกิจกรรมที่เข้าร่วม มีลักษณะดังนี้
+
[[ไฟล์:ภาพที่ 15 แสดงการนุ่งเสื้อฮีของผู้ชายและผู้หญิง.jpg|500px|thumb|center]]
1. ชุดลำลองหรือชุดอยู่บ้าน   
+
<p align = "center"> '''ภาพที่ 15 แสดงการนุ่งเสื้อฮีของผู้ชายและผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่เลาะชายซิ้นออก''' </p>
- ผู้ชาย ใส่กางเกงขาสั้น (ส้วงก้อม) ไม่นิยมสวมเสื้อ หรืออาจมีผ้าขาวม้าพาดบ่า
+
          ข้อห้ามของการแต่งกายของชาวไทยดำในตำบลโป่งน้ำร้อน มีดังนี้  
-   ผู้หญิง ห่มผ้าแถบ (ผ้าเปียว) และนุ่งซิ่นลายแตงโม
+
              1. ลักษณะการนุ่งซิ่นจะนุ่งแบบหน้าสั้นหลังยาว โดนพับหัวซิ่นจากทางซ้ายและขวามาทบกันเป็นสามเหลี่ยมไว้ตรงกลาง
 
+
              2. สตรีที่สามีเสียชีวิตจะเลาะตีนซิ่นออก เป็นการไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี
ภาพที่ 8 แสดงชุดลำลองหรือชุดอยู่บ้านชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
+
              3. ชาวไทดำทั้งชายและหญิงจะสวมใส่เสื้อฮีด้านที่มีลวดลายไม่มากไว้ด้านนอก และสวมเสื้อฮีด้านที่มีลวดลายสวยงามไว้ด้านใน และจะกลับเสื้อฮีด้านในเฉพาะคลุมโลงศพเท่านั้น
2. ชุดทางการ
+
          ชาวไทดำบ้านโป่งน้ำร้อน ตำบลคลองลาน มีความเชื่อเกี่ยวกับการนับถือผีบรรพบุรุษและมีการนับถือพระพุทธศาสนา  
ผู้ชาย สวมเสื้อไท ใส่กางเกงขาสั้น (ส้วงก้อม) หรือกางเกงขายาว (ส้วงฮี)
+
=='''ข้อมูลการสำรวจ'''==
 
+
==='''ผู้ให้ข้อมูล'''===
 
+
          1. นางสมัย  พวงแต้ม     330/3  ม.2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
+
          2. นางค่ำ  แปงเสียง       78 ม.2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
 
+
          3. นางจำปี  เหี้ยมหาญ   203 ม. 2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
 
+
==='''วันที่สำรวจข้อมูล'''===  
 
+
          2 มีนาคม พ.ศ.2562
 
+
==='''สถานที่สำรวจข้อมูล'''===
ภาพที่ 9 แสดงชุดทางการของผู้ชายชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
+
          บ้านโป่งน้ำร้อน ม.2 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จ.กำแพงเพชร
การแต่งกายชุดทางการของฝ่ายหญิงนั้นผู้หญิง จะสวมสวมเสื้อก้อม นุ่งซิ่นลายแตงโม มีผ้าเปียวพาดบ่า การแต่งกายแบบนี้จะแต่งายไปในงานทางการเช่น การกินเสนเรือน
+
==='''ผู้สำรวจข้อมูล'''===
 
+
          จิรัฎฐ์  เพ็งแดง /นายอธิวัตร  พวงแต้ม/ นายสุรวุธ  วาจูอิน
 
+
==='''คำสำคัญ (tag)'''===
 
+
          การแต่งกายไทยดำ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ภาพที่ 10 แสดงชุดทางการของผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
 
3. ชุดเพื่อประกอบพิธีกรรม
 
ผู้ชาย (ลูกเขย และหลานเขย) สวมเสื้อฮี ใส่กางเกงขาสั้น (ส้วงก้อม) หรือกางเกง
 
ขายาว (ส้วงฮี) การแต่งกายเช่นนี้จะทำให้ทราบสถานะของผู้สวมใส่หากอยู่ในพิธีกรรมจะสามารถเรียกใช้ได้หรือขอความช่วยเหลือได้
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ภาพที่ 11 แสดงชุดเพื่อประกอบพิธีกรรมของผู้ชายชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน  
 
อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
 
การแต่งชุดพิธีกรรมของผู้หญิง (ลูกสะใภ้ และหลานสะใภ้) จะสวมสวมเสื้อฮี นุ่งผ้าซิ่นลายแตงโม
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ภาพที่ 12 แสดงชุดเพื่อประกอบพิธีกรรมของผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน  
 
อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
 
 
 
ข้อห้ามของการแต่งกายของชาวไทยดำในตำบลโป่งน้ำร้อน
 
1. ลักษณะการนุ่งซิ่นจะนุ่งแบบหน้าสั้นหลังยาว โดนพับหัวซิ่นจากทางซ้ายและขวามาทบกันเป็นสามเหลี่ยมไว้ตรงกลาง
 
 
 
ภาพที่ 13 แสดงการนุ่งผ้าซิ่นผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชรที่ถูกต้อง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2. สตรีที่สามีเสียชีวิตจะเลาะตีนซิ่นออก เป็นการไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ภาพที่ 14 แสดงการนุ่งผ้าซิ่นผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน  
 
จ.กำแพงเพชร ที่เลาะชายซิ่นออก
 
3. ชาวไทดำทั้งชายและหญิงจะสวมใส่เสื้อฮีด้านที่มีลวดลายไม่มากไว้ด้านนอก และสวมเสื้อฮีด้านที่มีลวดลายสวยงามไว้ด้านใน และจะกลับเสื้อฮีด้านในเฉพาะคลุมโลงศพเท่านั้น
 
ภาพที่ 15 แสดงการนุ่งเสื้อฮีของผู้ชายและผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน
 
ข้อห้ามของการแต่งกายของชาวไทยดำในตำบลโป่งน้ำร้อน มีดังนี้  
 
1. ลักษณะการนุ่งซิ่นจะนุ่งแบบหน้าสั้นหลังยาว โดนพับหัวซิ่นจากทางซ้ายและขวามาทบกันเป็นสามเหลี่ยมไว้ตรงกลาง
 
2. สตรีที่สามีเสียชีวิตจะเลาะตีนซิ่นออก เป็นการไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี
 
3. ชาวไทดำทั้งชายและหญิงจะสวมใส่เสื้อฮีด้านที่มีลวดลายไม่มากไว้ด้านนอก และสวมเสื้อฮีด้านที่มีลวดลายสวยงามไว้ด้านใน และจะกลับเสื้อฮีด้านในเฉพาะคลุมโลงศพเท่านั้น
 
ชาวไทดำบ้านโป่งน้ำร้อน ตำบลคลองลาน มีความเชื่อเกี่ยวกับการนับถือผีบรรพบุรุษและมีการนับถือพระพุทธศาสนา  
 
 
 
ข้อมูลการสำรวจ
 
ผู้ให้ข้อมูล
 
1. นางสมัย  พวงแต้ม  
 
330/3  ม.2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
 
2. นางค่ำ  แปงเสียง  
 
78 ม.2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
 
3. นางจำปี  เหี้ยมหาญ  
 
203 ม. 2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
 
วันที่สำรวจข้อมูล  2 มีนาคม พ.ศ. 2562
 
สถานที่สำรวจข้อมูล บ้านโป่งน้ำร้อน ม.2 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน  
 
จ.กำแพงเพชร
 
ผู้สำรวจข้อมูล จิรัฎฐ์  เพ็งแดง /นายอธิวัตร  พวงแต้ม/ นายสุรวุธ  วาจูอิน
 
 
 
คำสำคัญ (tag) การแต่งกายไทยดำ
 

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 20:12, 11 เมษายน 2564

ข้อมูลทั่วไป[แก้ไข]

ชื่อชาติพันธุ์[แก้ไข]

        ไททรงดำ/ ไทยทรงดำ / ไทดำ/ ลาวโซ่ง/โซ่ง

ชื่อเรียกตนเอง[แก้ไข]

        ไทดำ

ที่ตั้ง[แก้ไข]

         หมู่ที่ 2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

ชื่อที่ผู้อื่นเรียก[แก้ไข]

         ไททรงดำ/ ไทยทรงดำ / ไทดำ/ ลาวโซ่ง/โซ่ง

ภาษาที่ใช้พูด[แก้ไข]

         ภาษาไทดำ

ประวัติความเป็นมา[แก้ไข]

         ผู้ไทดำหรือไทยทรงดำเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ไทยที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ในแคว้นสิบสองจุไทหรือเมืองแถนหรือเดียนเบียนฟู ประเทศเวียดนาม ในปัจจุบัน ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในแถบแม่น้ำดำและแม่น้ำแดง ปัจจุบันอยู่ในเขตเวียดนามเหนือตอนเชื่อมต่อกับลาวและจีนตอนใต้ ผู้ไทดำหรือไทยทรงดำมีชื่อเดิมเรียกกันว่าไทดำ(Black Tai) หรือ ผู่ไต๋ดำ เพราะนิยมใส่เสื้อดำล้วน  ไทดำกลุ่มนี้ได้ถูกกวาดต้อนเข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น  คนไทยภาคกลางเรียกกันว่า “ลาวทรงดำ” เพราะเข้าใจว่าเป็นพวกเดียวกับลาวและอพยพมาพร้อมกับลาวกลุ่มอื่น ๆ ต่อมาชื่อเดิมได้หดหายลง คำว่า “ดำ” หายไปนิยมเรียกกันในปัจจุบันว่า  “ลาวทรง” หรือ “ลาวโซ่ง” ซึ่งไม่ใช่คำเรียกที่ถูกต้อง ที่ถูกต้องคือเรียก ชนกลุ่มนี้ว่าผู้ไทดำ นั่นเอง  ชาวไทดำหรือ ไทยทรงดำถือตนเองว่าเป็นชนชาติไท จึงนิยมเรียกตนเองว่า “ไทดำ” หรือ “ผู้ไต๋ดำ” จากสงครามสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) มาจนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทำให้ไทดำ หรือไทยทรงดำถูกกวาดครัว มาอยู่เพชรบุรี ระยะแรกไทดำตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ตำบลหนองปรง อำเภอเขาย้อย (สมัยพระเจ้าตากสิน และรัชกาลที่ 1) ระยะที่สอง (สมัยรัชกาลที่ 3) โปรดฯ ให้มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ตำบลท่าแร้ง อำเภอบ้านแหลม ไทดำหรือไทยทรงดำ จึงมาตั้งถิ่นฐาน ที่ท่าแร้ง เมื่อปี พ.ศ.2378 - 2381 เนื่องด้วยเหตุผล ทางสงครามเช่นกันสงครามครั้งนั้น พวกลาวพวน พวกลาวเวียง ซึ่งเป็นชนชาติไทยด้วยสาขาหนึ่ง ได้ถูกกวาดครัวมาด้วยกัน เมืองเพชร  จึงประกอบด้วยชนกลุ่มน้อยที่เรียกว่า “สามลาว” อันได้แก่ ไทดำ ลาวพวน และ ลาวเวียง ธรรมชาติของผู้ไทดำ หรือไทยทรงดำ ชอบอยู่ที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึงชอบภูมิประเทศที่เป็นป่าเขา เสมือนถิ่นดั้งเดิมของตน ลาวโซ่งกลุ่มนี้ มิชอบภูมิประเทศที่ท่าแร้ง เพราะโล่งเกินไป จึงได้อพยพย้ายถิ่นฐานบ้านเรือนไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่สะพานยี่หนทุ่งเฟื้อ วังตะโก บ้านสามเรือน เวียงคอย เขาย้อย ตามลำดับ
         ชนชาติพันธุ์ไทดำเป็นอีกชนชาติหนึ่งที่ได้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่ ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เป็นชาวไทดำกลุ่มหนึ่งที่ได้อพยพมาจากตำบลห้วยท่าช้าง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2508 เพื่อแสวงหาแหล่งทำกินใหม่จึงมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ริมคลองสวนหมาก ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ชาวไทดำกลุ่มนี้ได้นำเอาประเพณี และศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ของชาวไทยดำมาด้วย ทั้งยังคงรักษาวัฒนธรรมของตนอย่างเหนียวแน่น และภาคภูมิใจในเชื้อชาติไทยดำ 
         ตามที่คณะผู้วิจัยได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร (17 ธันวาคม 2559) จากนายเหมือน อินทร์พรหม และนายซ้อน ทองแก้ว ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่ากลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เริ่มต้นจากกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำกลุ่มแรกที่อพยพเข้ามาอยู่ในจังหวัดเพชรบุรี ได้ถูกกวาดต้อนให้ไปอยู่ที่ตำบลท่าแร้ง อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบ ติดชายทะเลไม่เหมาะแก่การทำอาชีพเพาะปลูกที่เป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวไทดำ จึงได้อพยพขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ชาวไทดำได้ลงหลักปักฐานกระจายกันอยู่ในตำบลหนองชุมพล ตำบลบางเค็ม ตำบลสระพัง ตำบลเขาย้อย ตำบลทับคาง ตำบลหนองปรง ตำบลหนองปลาไหล ตำบลห้วยโรง และตำบลห้วยท่าช้าง ซึ่งถือได้ว่าอำเภอเขาย้อยเป็นเมืองแม่ของชาติพันธุ์ไทดำเนื่องจากมีประชากรชาวไทดำคิดเป็นร้อยละ 80 ของพื้นที่และได้ ยึดถือประเพณีความเชื่อแบบดั้งเดิมไว้อย่างเคร่งครัด จนในปี พ.ศ.2508 ได้มีชาวไทดำสองครอบครัว คือ 1. ครอบครัว นายจันทร์ ยอดใส 2. ครอบครัว นายมัน  ยอดใส อพยพจากตำบลห้วยท่าช้าง จังหวัดเพชรบุรี มาแสวงหาที่ทำมาหากินใหม่โดยเดินทางขึ้นมาทางเหนือมาพบแหล่งพื้นที่ทำกินใหม่ ที่ริมคลองสวนหมาก บริเวณตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ต่อมาไม่นาน ในปี พ.ศ.2509 นายต้น  เย็นตั้ง ได้อพยพมายังตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชรตามคำแนะนำของนาย จันทร์ ยอดใส และ นายมันยอดใส และในปี  พ.ศ.2511 ได้มีครอบครัวของนายแพ แตมพันธุ์ นายเลี้ยว ร้อยนาค นายเอก เหี้ยมหาญ นายต้น อินทร์พรหม นายพรม อุ่นเป็นนิจ นายมัน ทองแก้ว และนางสมัย พวงแต้ม ครอบครัวที่ได้กล่าวมานี้ได้มาตั้งอยู่ในชุมชนริมคลองสวนหมาก ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ชาวไทดำกลุ่มนี้ได้ยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่นและความเชื่อตามแบบย่างที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมาเมื่อครั้งที่อยู่ ตำบลห้วยท่าช้าง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ไว้อย่างเคร่งครัด

ข้อมูลประชากรศาสตร์[แก้ไข]

         จำนวนประชากรใน ตำบลโป่งน้ำร้อน
         จำนวนหลังคาเรือน : 1,688 หลังคาเรือน	 	 
         จำนวนประชากร : 6,881 คน	 			 		

ข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์[แก้ไข]

         ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมืองกำแพงเพชร
         ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน
         ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลสักงาม อำเภอคลองลาน
         ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า อำเภออุ้มผาง

วิถีชีวิต[แก้ไข]

         ชาวบ้านในตำบลโป่งน้ำร้อนส่วนมากมีอาชีพเกษตรกรรมและเก็บหาของป่า 

อาชีพ[แก้ไข]

         ชาวบ้านในตำบลโป่งน้ำร้อนส่วนมากมีอาชีพเกษตรกรรมและเก็บหาของป่า

การแต่งกาย [แก้ไข]

         มีลักษณะเฉพาะดังนี้ เครื่องแต่งกายของชาวไทยดำแบ่งตามเพศได้ ดังนี้ 
         เครื่องแต่งกายผู้ชาย
             1. เสื้อไท เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เสื้อคอตั้ง ผ่าหน้า ติดกระดุมเงินจำนวนเป็นเลขคี่ (จำนวนของกระดุมเงินบ่งบอกถึงสถานะร่ำรวย) แขนกระบอก และเอวผายออก	
ภาพที่ 1 แสดงเสื้อไทชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 1 แสดงเสื้อไทชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

             2. เสื้อฮีชาย เสื้อฮี เป็นเสื้อแขนกระบอกคอกลมแขนยาว ทำจากผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม ตกแต่งลวดลายข้างลำตัวและด้านในบริเวณชายเสื้อ และสนกระจกเพื่อความสวยงาม มีกระดุมที่คอ 1 เม็ด
ภาพที่ 2 แสดงเสื้อฮีชายชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 2 แสดงเสื้อฮีชายชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

             3. ส้วง (กางเกง) ชาวไทยดำเรียกกางเกงว่า ผ้าส้วง มี 2 ประเภท คือ ส้วงฮี (กางเกงขายาว) เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เย็บด้วยมือ ขายาว มีเชือกผูกเอว ลักษณะคล้ายกางเกงขาก๊วยแต่ขากางเกงจะมีขนาดเล็ก  และส้วงก้อม (กางเกงขาสั้น) เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เย็บด้วยมือ มีลีกษณะคล้ายกับส้วงฮีแต่จะสั้นกว่า (3 ส่วน) ซึ่งในสมัยโบราณจะใส่ทั้งชายและหญิงในเวลาทำงาน
ภาพที่ 3 แสดงส้วง.jpg

ภาพที่ 3 แสดงส้วง (กางเกง)ชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ. กำแพงเพชร

         เครื่องแต่งกายของผู้หญิง
             1. เสื้อก้อม เป็นผ้าฝ้ายย้อมครามเข้ม เสื้อคอตั้ง แขนกระบอก ผ่าหน้า ติดกระดุมเงิน 11 เม็ด รัดรูป พับสาบสั้นประมาณ 1 นิ้วเพื่อให้เห็นเข็มขัด
ภาพที่ 4 แสดงเสื้อก้อมชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 4 แสดงเสื้อก้อมชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

             2. เสื้อฮีหญิง เป็นเสื้อคอสามเหลี่ยม แขนกระบอก แขนยาว ลำตัวใหญ่ ด้านนอกมีการตกแต่งลวดลาย บริเวณอกทั้งข้างซ้ายและข้างขวา และขลิบลายที่ปลายแขน ด้านในของเสื้อ มีการตกแต่งลวดลายที่สวยงาม เวลาสวมใส่จะใส่ด้านที่มีลวดลายน้อยไว้ด้านนอก และจะสวมใส่ด้านที่มีลวดลายมากในกรณีที่เสียชีวิตเท่านั้น
ภาพที่ 5 แสดงเสื้อฮีหญิงชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 5 แสดงเสื้อฮีหญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

             3. ผ้าซิ่น ไทยดำเรียกว่า ซิ่นตา หรือ ซิ่นลายแตงโม เนื่องจากวิธีการทอจะใช้เส้นยืนเป็นเส้นด้ายสีแดงและใช้เส้นพุ่งเป็นสีครามเข้ม มีลวดลายสีครามเป็นริ้วตามตัว ผ้าซิ่นจะมีส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ
             1. หัวซิ่น เป็นส่วนบนสุดของซิ่น เป็นผ้าฝ้ายพื้นสีครามเข้ม มีความกว้างประมาณ 9 นิ้ว
             2. ตัวซิ่น เป็นซิ่นลายริ้วสีฟ้าสลับสีครามเข้มยาวตามลำตัว
             3. ตีนซิ่น เป็นแถบผ้ากว้างประมาณ 1 นิ้วครึ่ง มีลายขิดสีฟ้า เรียกว่าลายก้านกาง
             การนุ่งซิ่นของหญิงชาวไทยดำจะนุ่งแบบหน้าสั้นหลังยาว โดยการนุ่งป้ายพับหัวซิ่นทั้งซ้ายและขวามาทบกันไว้ตรงกลางเป็นรูปสามเหลี่ยม ทำให้เดินได้สะดวก 
ภาพที่ 6 แสดงผ้าซิ่นหญิงชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 6 แสดงผ้าซิ่นหญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

             4. ผ้าเปียว
ภาพที่ 7 แสดงผ้าเปียวชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 7 แสดงผ้าเปียวชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

         เป็นผ้าแถบหรือผ้าสไบ ทำจากผ้าฝ้ายย้อมครามเท่านั้น ปักชายทั้งสองข้างด้วยลายดอกเปียว และถักขอบชายผ้าสลับสี 3 สีได้แก่ สีแดง สีส้ม และสีขาว มีขนาดกว้าง 18 นิ้ว ยาว 72 นิ้ว จะใช้พาดบ่าแต่เมื่องานรื่นเริง เช่น เทศกาลสงกรานต์ผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานจะใช้คล้องคอ ในการเล่นลูกช่วงหากผู้หญิงถูกใจฝ่ายชายก็จะใช้ผ้าที่คล้องคอของตนคล้องให้กับฝ่ายชาย 
         การแต่งกายของชาวไทยทรงดำทั้งชายและหญิงจะแต่งกายตามวาระโอกาสหรือกิจกรรมที่เข้าร่วม มีลักษณะดังนี้
         1. ชุดลำลองหรือชุดอยู่บ้าน  
             - ผู้ชาย ใส่กางเกงขาสั้น (ส้วงก้อม) ไม่นิยมสวมเสื้อ หรืออาจมีผ้าขาวม้าพาดบ่า
             - ผู้หญิง ห่มผ้าแถบ (ผ้าเปียว) และนุ่งซิ่นลายแตงโม
ภาพที่ 8 แสดงชุดลำลองหรือชุดอยู่บ้านชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 8 แสดงชุดลำลองหรือชุดอยู่บ้านชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

         2. ชุดทางการ
             ผู้ชาย สวมเสื้อไท ใส่กางเกงขาสั้น (ส้วงก้อม) หรือกางเกงขายาว (ส้วงฮี)
ภาพที่ 9 แสดงชุดทางการของผู้ชายชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 9 แสดงชุดทางการของผู้ชายชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

             การแต่งกายชุดทางการของฝ่ายหญิงนั้นผู้หญิง จะสวมสวมเสื้อก้อม นุ่งซิ่นลายแตงโม มีผ้าเปียวพาดบ่า การแต่งกายแบบนี้จะแต่งไปในงานทางการ เช่น การกินเสนเรือน
ภาพที่ 10 แสดงชุดทางการของผู้หญิงชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 10 แสดงชุดทางการของผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

         3. ชุดเพื่อประกอบพิธีกรรม
             ผู้ชาย (ลูกเขย และหลานเขย) สวมเสื้อฮี ใส่กางเกงขาสั้น (ส้วงก้อม) หรือกางเกงขายาว (ส้วงฮี) การแต่งกายเช่นนี้จะทำให้ทราบสถานะของผู้สวมใส่หากอยู่ในพิธีกรรมจะสามารถเรียกใช้ได้หรือขอความช่วยเหลือได้
ภาพที่ 11 แสดงชุดเพื่อประกอบพิธีกรรม.jpg

ภาพที่ 11 แสดงชุดเพื่อประกอบพิธีกรรมของผู้ชายชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

             การแต่งชุดพิธีกรรมของผู้หญิง (ลูกสะใภ้ และหลานสะใภ้) จะสวมสวมเสื้อฮี นุ่งผ้าซิ่นลายแตงโม
ภาพที่ 12 แสดงชุดเพื่อประกอบพิธีกรรม.jpg

ภาพที่ 12 แสดงชุดเพื่อประกอบพิธีกรรมของผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

         ข้อห้ามของการแต่งกายของชาวไทยดำในตำบลโป่งน้ำร้อน
             1. ลักษณะการนุ่งซิ่นจะนุ่งแบบหน้าสั้นหลังยาว โดนพับหัวซิ่นจากทางซ้ายและขวามาทบกันเป็นสามเหลี่ยมไว้ตรงกลาง
ภาพที่ 13 แสดงการนุ่งผ้าซิ่นผู้หญิงชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 13 แสดงการนุ่งผ้าซิ่นผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่ถูกต้อง

             2. สตรีที่สามีเสียชีวิตจะเลาะตีนซิ่นออก เป็นการไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี
ภาพที่ 14 แสดงการนุ่งผ้าซิ่นผู้หญิงชาวไทยทรงดำ.jpg

ภาพที่ 14 แสดงการนุ่งผ้าซิ่นผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่เลาะชายซิ้นออก

             3. ชาวไทดำทั้งชายและหญิงจะสวมใส่เสื้อฮีด้านที่มีลวดลายไม่มากไว้ด้านนอก และสวมเสื้อฮีด้านที่มีลวดลายสวยงามไว้ด้านใน และจะกลับเสื้อฮีด้านในเฉพาะคลุมโลงศพเท่านั้น
ภาพที่ 15 แสดงการนุ่งเสื้อฮีของผู้ชายและผู้หญิง.jpg

ภาพที่ 15 แสดงการนุ่งเสื้อฮีของผู้ชายและผู้หญิงชาวไทยทรงดำ บ้านโป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่เลาะชายซิ้นออก

         ข้อห้ามของการแต่งกายของชาวไทยดำในตำบลโป่งน้ำร้อน มีดังนี้ 
             1. ลักษณะการนุ่งซิ่นจะนุ่งแบบหน้าสั้นหลังยาว โดนพับหัวซิ่นจากทางซ้ายและขวามาทบกันเป็นสามเหลี่ยมไว้ตรงกลาง
             2. สตรีที่สามีเสียชีวิตจะเลาะตีนซิ่นออก เป็นการไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี
             3. ชาวไทดำทั้งชายและหญิงจะสวมใส่เสื้อฮีด้านที่มีลวดลายไม่มากไว้ด้านนอก และสวมเสื้อฮีด้านที่มีลวดลายสวยงามไว้ด้านใน และจะกลับเสื้อฮีด้านในเฉพาะคลุมโลงศพเท่านั้น
         ชาวไทดำบ้านโป่งน้ำร้อน ตำบลคลองลาน มีความเชื่อเกี่ยวกับการนับถือผีบรรพบุรุษและมีการนับถือพระพุทธศาสนา 

ข้อมูลการสำรวจ[แก้ไข]

ผู้ให้ข้อมูล[แก้ไข]

         1. นางสมัย  พวงแต้ม      330/3  ม.2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
         2. นางค่ำ  แปงเสียง       78 ม.2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
         3. นางจำปี  เหี้ยมหาญ    203 ม. 2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

วันที่สำรวจข้อมูล[แก้ไข]

         2 มีนาคม พ.ศ.2562

สถานที่สำรวจข้อมูล[แก้ไข]

         บ้านโป่งน้ำร้อน ม.2 ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จ.กำแพงเพชร

ผู้สำรวจข้อมูล[แก้ไข]

         จิรัฎฐ์  เพ็งแดง /นายอธิวัตร  พวงแต้ม/ นายสุรวุธ  วาจูอิน

คำสำคัญ (tag)[แก้ไข]

         การแต่งกายไทยดำ