ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฐานข้อมูล เรื่อง "แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม" ตำบลสลกบาตร"

จาก KPPStudies
ไบยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
(สร้างหน้าด้วย "=='''ข้อมูลทั่วไป'''== ==='''ชื่อเรียก'''=== วัดหงษ์ทอง (หลวงพ่อจ...")
 
แถว 1: แถว 1:
=='''ข้อมูลทั่วไป'''==
+
1. วัดหงษ์ทอง (หลวงพ่อจุล) > '''[https://acc.kpru.ac.th/KPPStudies/index.php?title=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87_(%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A5) ฐานข้อมูล]'''
==='''ชื่อเรียก'''===
+
2. วัดสิงคาราม > ฐานข้อมูล
          วัดหงษ์ทอง (หลวงพ่อจุล)
 
==='''ศาสนา'''===
 
          ศาสนาพุทธ มหานิกาย
 
==='''ที่ตั้ง'''===
 
          เลขที่ 1 หมู่ 5 ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร 62140
 
==='''ที่ตั้งพิกัดทางภูมิศาสตร์'''===
 
          ละติจูด (Latitude) : 16.0007458
 
          ลองติจูด (Longitude) : 99.7979634
 
==='''หน่วยงานที่ดูแลรักษา'''===
 
          สำนักงานพระพุทธศาสนา
 
==='''สถานะการขึ้นทะเบียน'''===
 
          ประเภท วัดราษฎร์
 
==='''วัน/เดือน/ปีก่อสร้าง'''===
 
          วันที่ตั้งวัด 2420
 
          วันรับวิสุงคามสีมา 1 มกราคม 2506
 
=='''ข้อมูลจำเพาะ'''==
 
==='''ประวัติความเป็นมา/คำบอกเล่า/ตำนาน'''===
 
          วัดหงษ์ทอง (หลวงพ่อจุล) หลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระวชิรสารโสภณ (จุล อิสสร ญาโณ) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อจุล เจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง และอดีตเจ้าคณะอำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร
 
[[ไฟล์:ภาพที่ 6 วัดหงษ์ทอง.jpg|500px|thumb|center]]
 
<p align = "center"> '''ภาพที่ 1 วัดหงษ์ทอง (หลวงพ่อจุล)''' </p>
 
          “พระวชิรสารโสภณ” หรือ “หลวงพ่อจุล อิสสรญาโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง และยังเป็นอดีตเจ้าคณะอำเภอขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เป็นพระเถระที่ชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธามาช้านาน สร้างโรงเรียนวชิรสารโสภณและสนับสนุนโรงเรียนสลกบาตร มาเป็นเวลานาน มีนามเดิม จุล พุทธชาติ หลวงพ่อจุล เกิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2437 ที่บ้านสลกบาตร ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร
 
[[ไฟล์:ภาพที่ 2 พระวชิรสารโสภณ.jpg|500px|thumb|center]]
 
<p align = "center"> '''ภาพที่ 2 “พระวชิรสารโสภณ” หรือ “หลวงพ่อจุล อิสสรญาโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง''' </p>
 
          เป็นบุตรของนายเนตร ส่วนมารดานั้นไม่ทราบชื่อ ในวัยเด็กได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบชั้นประถม จากนั้นได้ช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ จนถึงปี พ..2458 อายุได้ 21 ปี ได้ไปเป็นศิษย์วัดอยู่ที่จังหวัดตาก 2 ปี จากนั้นจึงได้กลับมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2460  ณ วัดหงษ์ทอง หลังอุปสมบทแล้วได้ไปจำพรรษาที่วัดสิงคาราม ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย หากยังคงไปมาระหว่างวัดหงษ์ทองและวัดสิงคาราม จำพรรษาที่วัดสิงคารามได้ 3 พรรษา จึงได้ไปศึกษาวิชาต่อที่วัดบ้านแก่ง ตำบลบ้านแก่ง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นศิษย์พระครูนิวุตถ์พรหมจรรย์ (ทองอยู่) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้มีวิชาคาถาอาคมขลัง อีกทั้งมีความรู้ดีในด้านพระปริยัตธรรม ซึ่งแต่ละปีจะมีพระภิกษุทั้งจากเมืองกำแพงเพชรและเมืองนครสวรรค์มาฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย
 
          กล่าวกันว่าหลวงพ่อทองอยู่ วัดบ้านแก่ง ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ แต่ก็มีผู้บอกว่าท่านเป็นสหายทางธรรมกันต่อมาวัดหงษ์ทองได้ว่างตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ทางมรรคทายกวัดพร้อมชาวบ้านสลกบาตรได้ร่วมกันสรรหาพระภิกษุผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้เห็นพ้องต้องกันว่าเป็นหลวงพ่อจุล ที่ขณะนั้นยังจำพรรษาที่วัดบ้านแก่งอยู่ จึงได้ไปนิมนต์หลวงพ่อจุลมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง ในปี พ.ศ. 2478 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระใบฎีกา ฐานานุกรมของพระวิบูลย์วชิรธรรม (สว่าง อุตฺตโร) วัดคฤหบดีสงฆ์ (ท่าพุทรา) ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภอขาณุวรลักษบุรีในขณะนั้น ปี พ.ศ.2480 ได้เลื่อนขึ้นเป็นที่ “พระสมุห์” ปี พ.ศ.2481 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูวิกรมวชิรสาร” ต่อมาในปี พ.ศ.2502 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระวชิรสารโสภณ”
 
[[ไฟล์:ภาพที่ 7 เจ้าคุณพระวชิรสารโสภณ (จุล).jpg|500px|thumb|center]]
 
<p align = "center"> '''ภาพที่ 3 เจ้าคุณพระวชิรสารโสภณ (จุล)''' </p>
 
          ท่านปฏิบัติในพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด มีคุณูปการแก่พระศาสนาอเนกประการ ญาติมิตรและสาธุชนทั่วไป ท่านอบรมสั่งสอนให้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างดีตลอดมา ด้านหน้าที่สงฆ์ของหลวงพ่อจุล นับแต่ปี พ.ศ.2470 ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง ปี พ.ศ.2471 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลสลกบาตร ปี พ.ศ.2478 ได้รับตราตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ปี พ.ศ.2487 ได้รับแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการจังหวัดและเป็นกรรมการตรวจสอบนักธรรม
 
[[ไฟล์:ภาพที่ 4 ศาลาทรงไทยพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน.jpg|500px|thumb|center]]
 
<p align = "center"> '''ภาพที่ 4 ศาลาทรงไทยพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน''' </p>
 
          ท่านมีคุณาประการแก่พระศาสนาอเนกประการนับว่าท่านเป็นอัฉริยะตั้งอยู่ในฐานะอภิปูชนียบุคคลสมเป็นที่เคารพนับถือและรักใคร่แก่ศิษยานุศิษย์ ญาติมิตรและสาธุชนทั่วไป ท่านได้อบรมสั่งสอนให้ประพฤติ ปฏิบัติตามธรรมวินัย คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างดีตลอดมา ครั้นอายุมาก สังขารร่วงโรย หลวงพ่อจุลมีอาการอาพาธเป็นเบาหวานและโรคปอด ญาติและศิษย์ช่วยกันนำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ แต่อาการป่วยของท่านทรุดลง ไม่บรรเทา หลวงพ่อจุลมรณภาพ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2512 สิริอายุได้ 74 ปี พรรษาที่ 51
 
[[ไฟล์:ภาพที่ 5 บรรยากาศภายในวัด.jpg|500px|thumb|center]]
 
<p align = "center"> '''ภาพที่ 5 บรรยากาศภายในวัด''' </p>
 
==='''ลักษณะทางสถาปัตยกรรม'''===
 
          -
 
==='''บุคคลที่เกี่ยวข้อง'''===
 
          ชมรมพระเครื่องเมืองกำแพงเพชร
 
==='''วิธี/ขั้นตอน/กระบวนการในการสักการะ'''===
 
          ดอกไม้ ธูป เทียน
 
=='''ข้อมูลการสำรวจ'''==
 
==='''แหล่งอ้างอิง'''===
 
          เจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง ที่อยู่ 1 หมู่ 5 ตำบลสลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร โทร. 0-5577-1299
 
          ชมรมพระเครื่องเมืองกำแพงเพชร
 
==='''วันเดือนปีที่สำรวจ'''===
 
          วันที่ 2-3 มีนาคม 2562
 
==='''วันปรับปรุงข้อมูล'''===
 
          -
 
==='''ผู้สำรวจข้อมูล'''===
 
          นางสาวสุรินทร์  เพชรไทย
 
==='''คำสำคัญ (tag)'''===
 
          วัดหงษ์ทอง, หลวงพ่อจุล
 
  
  
 
   
 
   
2. ศาสนสถาน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์
 
2.1. ข้อมูลทั่วไป
 
2.1.1. ชื่อเรียก
 
วัดสิงคาราม
 
2.1.2. ศาสนา
 
ศาสนาพุทธ มหานิกาย
 
  
2.1.3. ที่ตั้ง
 
เลขที่ 1 หมู่ 1 ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร 62140
 
2.1.4. ที่ตั้งพิกัดทางภูมิศาสตร์
 
ละติจูด (Latitude) : 16.0005871
 
ลองติจูด (Longitude) : 99.8026453
 
 
2.1.5. หน่วยงานที่ดูแลรักษา
 
สำนักงานพระพุทธศาสนา
 
2.1.6. สถานะการขึ้นทะเบียน
 
ประเภท วัดราษฎร์
 
 
2.1.7. วัน/เดือน/ปีก่อสร้าง
 
วันที่ตั้งวัด 2400
 
วันรับวิสุงคามสีมา 1 มกราคม 2506
 
 
2.2. ข้อมูลจำเพาะ
 
2.2.1. ประวัติความเป็นมา/คำบอกเล่า/ตำนาน
 
วัดสิงคาราม เป็นวัดที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของชาวบ้านสลกบาตร สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีโบราณสถานและโบราณวัตถุเป็นที่เคารพสักการะของประชาชน วัดสิงคารามเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดกำแพงเพชร โดยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2521 ได้ต้อนรับการเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 10 สมัยทรงอิสริยยศเป็นสยามกุฏราชกุมาร ทรงเสร็จเป็นองค์ประธานตัดหวายลูกนิมิตควรแล้วที่ชาวสลกบาตรจะภูมิใจและช่วยกันทำนุบำรุง และวันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2560 ตั้งแต่เวลา 19.19 น. นายธัชชัย สีสุวรรณ
 
ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดสิงคาราม ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี  จังหวัดกำแพงเพชร โดยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นสู่ยอดพระธาตุ เพื่อความเหมาะสม มีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
 
 
 
ภาพที่ 1 พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นสู่ยอดพระธาตุ
 
ที่มา : (เคพีพีนิวส์ข่าวจังหวัดกำแพงเพชร, 2561)
 
 
วัดสิงคาราม หรือวัดสิงห์ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองสลกบาตร มีองค์พระเก่าที่ชาวบ้านเรียก
 
“หลวงปู่สิงห์”ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านตำบลสลกบาตรได้เคารพและนับถือ กันมาแต่ช้านานถือว่าเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ของตำบลสลกบาตร ปัจจุบันได้มีการบูรณะขึ้นมาอย่างสวยงามเพื่อให้ประชาชนชาวสลกบาตรหรือผู้ที่ผ่านมาไว้แวะมาสักการะบูชาและขอพร
 
 
ภาพที่ 2 พระธาตุสถานที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุ
 
 
 
ภาพที่ 3 หลวงปู่เจ้าวัดก่อนเริ่มบูรณะ
 
ที่มา: (พร้อมเพรียง ภูริญาโณ, 2559)
 
 
วิหารหลวงปู่เจ้าวัด ทำฝ้าเพด้านด้วยไม้สักทอง รั้วแกะสลักประจำปีเกิด 12 ราศรี ภายในเป็นที่ประดิษฐานของหลวงปู่สิงห์ (หลวงปู่เจ้าวัด)
 
 
ภาพที่ 4 วิหารหลวงปู่เจ้าวัด
 
 
 
ภาพที่ 5 หลวงปู่สิงห์ (หลวงปู่เจ้าวัด)
 
อุโบสถ (อ่านว่า อุ-โบ-สด) ถือเป็นอาคารที่สำคัญภายในวัดเนื่องจากเป็นสถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์ใช้ทำ สังฆกรรมซึ่งแต่เดิมในการทำสังฆกรรมของ พระภิกษุสงฆ์จะใช้เพียงพื้นที่โล่ง ๆ ที่กำหนดขอบเขตพื้นที่
 
สังฆกรรมโดยการกำหนดตำแหน่ง“สีมา” เท่านั้น แต่ในปัจจุบันจากการมีผู้บวชมากขึ้น อีกทั้งภายใน พระอุโบสถมักประดิษฐานพระประธานที่เป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญ ๆ ทำให้มีผู้มาสักการบูชาและร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก พระอุโบสถจึงถูกสร้าง ขึ้นเป็นอาคารถาวรและมักมี การประดับตกแต่งอย่างสวยงาม สำหรับอุโบสถเดิมของวัดสิงคารามจะเป็นอาคารชั้นเดียว ปัจจุบันชาวบ้านได้ร่วมใจกันสร้างอุโบสถหลังใหม่ มีความสวยงาน
 
 
ภาพที่ 6 อุโบสถหลังเก่าวัดสิงคาราม
 
 
 
ภาพที่ 7 อุโบสถหลังใหม่วัดสิงคาราม
 
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปให้ประชาชนได้กราบไหว้ในสถานที่ต่างๆอีกหลายจุด แล้วแต่ความศัรทธา
 
 
ภาพที่ 8 พระพุทธรูปภายในวัดสิงคาราม
 
 
 
ภาพที่ 9 ต้นตะเคียน
 
 
ภายในวัดบริเวณวิหารหลวงปู่เจ้าวัดมีต้นตะเคียน ที่ชาวบ้านให้ความเคารพและเข้ามากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก โดยนำดอกไม้ ผ้าสีต่างๆ ผูกไว้ด้วยความศรัทธา
 
 
2.2.2. ลักษณะทางสถาปัตยกรรม
 
-
 
2.2.3. บุคคลที่เกี่ยวข้อง
 
เจ้าอาวาสพระมหาพร้อมเพรียง ภูริญาโณ
 
2.2.4. วิธี/ขั้นตอน/กระบวนการในการสักการะ
 
ดอกไม้ ธูป เทียน
 
2.3. ข้อมูลการสำรวจ
 
2.3.1. แหล่งอ้างอิง
 
เจ้าอาวาสพระมหาพร้อมเพรียง ภูริญาโณ
 
เทศบาลตำบลสลกบาตร
 
2.3.2. วันเดือนปีที่สำรวจ
 
วันที่ 9-10 มีนาคม 2562
 
2.3.3. วันปรับปรุงข้อมูล
 
-
 
2.3.4. ผู้สำรวจข้อมูล
 
นางสาวสุรินทร์  เพชรไทย
 
2.3.5. คำสำคัญ (tag)
 
วัดสิงคาราม , หลวงปู่สิงห์, หลวงปู่เจ้าวัด, ต้นตะเคียน
 
  
  

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:54, 12 เมษายน 2564

1. วัดหงษ์ทอง (หลวงพ่อจุล) > ฐานข้อมูล 2. วัดสิงคาราม > ฐานข้อมูล




3. ศาสนสถาน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3.1. ข้อมูลทั่วไป 3.1.1. ชื่อเรียก วัดสลกบาตร 3.1.2. ศาสนา ศาสนาพุทธ มหานิกาย

3.1.3. ที่ตั้ง หมู่ 3 ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร 62140 3.1.4. ที่ตั้งพิกัดทางภูมิศาสตร์ ละติจูด (Latitude) : 15.9853992 ลองติจูด (Longitude) : 99.8217401

3.1.5. หน่วยงานที่ดูแลรักษา สำนักงานพระพุทธศาสนา 3.1.6. สถานะการขึ้นทะเบียน ประเภท วัดราษฎร์

3.1.7. วัน/เดือน/ปีก่อสร้าง วันที่ตั้งวัด 30 ธันวาคม 2528 วันรับวิสุงคามสีมา -

3.2. ข้อมูลจำเพาะ 3.2.1. ประวัติความเป็นมา/คำบอกเล่า/ตำนาน วัดสลกบาตร เป็นวัดป่าที่รักษารูปแบบการถือศิลแบบพระธุดง เดิมใช้ชื่อว่า “สำนักพุทธรักษา” สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2524 นำโดยพระมหาแก้วพุทธรกขิโต ซึ่งชาวบ้านได้นิมนต์ท่านมาพำนักอยู่จำพรรษา เนื่องจากเป็นป่าธรรมชาติเหมาะแก่การเจริญสมณธรรม

ภาพที่ 1 ศาลาปฏิบัติธรรม


ภาพที่ 2 พระพุทธรูปภายในศาลาปฏิบัติธรรม

ต่อมาคุณจอยและคุณจันทร์ เรืองศรีจันทร์และครอบครัว ได้ยกที่ดินจำนวน 6 ไร่ เพื่อใช้สร้างวัดใช้ชื่อว่าสำนักสงฆ์พุทธรักษา และมีการพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นลำดับ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ 2528 ได้ประกาศตั้งวัดใช้ชื่อว่าวัด “สลกบาตร” โดยมีพระครูวชิรประภากร เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสในขณะนั้น

ภาพที่ 3 หลวงพ่อทันใจ วัดสลกบาตร เป็นวัดป่าที่รักษารูปแบบการถือศีลแบบพระธุดงค์ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า

“วัดป่าสลกบาตร” วัดสลกบาตรได้จัดให้มีการบวชชีพราหมณ์บ่อยครั้งและได้สร้างองค์พระขนาดใหญ่ คือ “หลวงพ่อทันใจ”      ซึ่งชาวสลกบาตรร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเสร็จภายในวันเดียวเพื่อให้ประชาชนชาวสลกบาตรหรือผู้ที่ผ่านไปมาได้แวะสักการะบูชาขอพร

3.2.2. ลักษณะทางสถาปัตยกรรม - 3.2.3. บุคคลที่เกี่ยวข้อง 3.2.4. วิธี/ขั้นตอน/กระบวนการในการสักการะ

ดอกไม้ ธูป เทียน

3.3. ข้อมูลการสำรวจ 3.3.1. แหล่งอ้างอิง พร้อมเพรียง ภูริญาโณ. (2559). หลวงปู่สิงห์ (หลวงปู่เจ้าวัด) ก่อนเริ่มบูรณะ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.facebook.com/WadSingKhaRamSalokbat/. [2562, มีนาคม 20].

_______ . (2559). วิหารหลวงปู่สิงห์ (หลวงปู่เจ้าวัด) ก่อนเริ่มบูรณะ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.facebook.com/WadSingKhaRamSalokbat/. [2562, มีนาคม 20].

มติชนสุดสัปดาห์. (2561). โฟกัสพระเครื่อง. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.matichonweekly.com/column/article_106257. [2562, มีนาคม 10].

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2561). ตำบลสลกบาตร. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://th.wikipedia.org/wiki/ตำบลสลกบาตร. [2562, มีนาคม 10].

Jasminta. (2562). 30 วัด UNSEEN ในเมืองไทย สวยแค่ไหนต้องไปดู. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://travel.mthai.com/blog/142618.html. [2562, มีนาคม 12]. 3.3.2. วันเดือนปีที่สำรวจ วันที่ 9-10 มีนาคม 2562 3.3.3. วันปรับปรุงข้อมูล - 3.3.4. ผู้สำรวจข้อมูล นางสาวสุรินทร์ เพชรไทย 3.3.5. คำสำคัญ (tag) วัดสลกบาตร , หลวงพ่อทันใจ, สำนักพุทธรักษา