ฐานข้อมูล เรื่อง "แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม" ตำบลสลกบาตร

จาก KPPStudies
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:43, 12 เมษายน 2564 โดย Admin (คุย | มีส่วนร่วม) (สร้างหน้าด้วย "=='''ข้อมูลทั่วไป'''== ==='''ชื่อเรียก'''=== วัดหงษ์ทอง (หลวงพ่อจ...")
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)
ไบยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อเรียก

         วัดหงษ์ทอง (หลวงพ่อจุล)

ศาสนา

         ศาสนาพุทธ มหานิกาย

ที่ตั้ง

         เลขที่ 1 หมู่ 5 ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร 62140

ที่ตั้งพิกัดทางภูมิศาสตร์

         ละติจูด (Latitude) : 16.0007458
         ลองติจูด (Longitude) : 99.7979634

หน่วยงานที่ดูแลรักษา

         สำนักงานพระพุทธศาสนา

สถานะการขึ้นทะเบียน

         ประเภท วัดราษฎร์

วัน/เดือน/ปีก่อสร้าง

         วันที่ตั้งวัด 2420
         วันรับวิสุงคามสีมา 1 มกราคม 2506

ข้อมูลจำเพาะ

ประวัติความเป็นมา/คำบอกเล่า/ตำนาน

         วัดหงษ์ทอง (หลวงพ่อจุล) หลวงพ่อท่านเจ้าคุณพระวชิรสารโสภณ (จุล อิสสร ญาโณ) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อจุล เจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง และอดีตเจ้าคณะอำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร
ภาพที่ 6 วัดหงษ์ทอง.jpg

ภาพที่ 1 วัดหงษ์ทอง (หลวงพ่อจุล)

         “พระวชิรสารโสภณ” หรือ “หลวงพ่อจุล อิสสรญาโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง และยังเป็นอดีตเจ้าคณะอำเภอขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เป็นพระเถระที่ชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธามาช้านาน สร้างโรงเรียนวชิรสารโสภณและสนับสนุนโรงเรียนสลกบาตร มาเป็นเวลานาน มีนามเดิม จุล พุทธชาติ หลวงพ่อจุล เกิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2437 ที่บ้านสลกบาตร ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร
ภาพที่ 2 พระวชิรสารโสภณ.jpg

ภาพที่ 2 “พระวชิรสารโสภณ” หรือ “หลวงพ่อจุล อิสสรญาโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง

         เป็นบุตรของนายเนตร ส่วนมารดานั้นไม่ทราบชื่อ ในวัยเด็กได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบชั้นประถม จากนั้นได้ช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพ จนถึงปี พ.ศ.2458 อายุได้ 21 ปี ได้ไปเป็นศิษย์วัดอยู่ที่จังหวัดตาก 2 ปี จากนั้นจึงได้กลับมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2460  ณ วัดหงษ์ทอง หลังอุปสมบทแล้วได้ไปจำพรรษาที่วัดสิงคาราม ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย หากยังคงไปมาระหว่างวัดหงษ์ทองและวัดสิงคาราม จำพรรษาที่วัดสิงคารามได้ 3 พรรษา จึงได้ไปศึกษาวิชาต่อที่วัดบ้านแก่ง ตำบลบ้านแก่ง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นศิษย์พระครูนิวุตถ์พรหมจรรย์ (ทองอยู่) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้มีวิชาคาถาอาคมขลัง อีกทั้งมีความรู้ดีในด้านพระปริยัตธรรม ซึ่งแต่ละปีจะมีพระภิกษุทั้งจากเมืองกำแพงเพชรและเมืองนครสวรรค์มาฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย 
         กล่าวกันว่าหลวงพ่อทองอยู่ วัดบ้านแก่ง ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ แต่ก็มีผู้บอกว่าท่านเป็นสหายทางธรรมกันต่อมาวัดหงษ์ทองได้ว่างตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ทางมรรคทายกวัดพร้อมชาวบ้านสลกบาตรได้ร่วมกันสรรหาพระภิกษุผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้เห็นพ้องต้องกันว่าเป็นหลวงพ่อจุล ที่ขณะนั้นยังจำพรรษาที่วัดบ้านแก่งอยู่ จึงได้ไปนิมนต์หลวงพ่อจุลมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง ในปี พ.ศ. 2478 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระใบฎีกา ฐานานุกรมของพระวิบูลย์วชิรธรรม (สว่าง อุตฺตโร) วัดคฤหบดีสงฆ์ (ท่าพุทรา) ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภอขาณุวรลักษบุรีในขณะนั้น ปี พ.ศ.2480 ได้เลื่อนขึ้นเป็นที่ “พระสมุห์” ปี พ.ศ.2481 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูวิกรมวชิรสาร” ต่อมาในปี พ.ศ.2502 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระวชิรสารโสภณ” 
ภาพที่ 7 เจ้าคุณพระวชิรสารโสภณ (จุล).jpg

ภาพที่ 3 เจ้าคุณพระวชิรสารโสภณ (จุล)

         ท่านปฏิบัติในพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด มีคุณูปการแก่พระศาสนาอเนกประการ ญาติมิตรและสาธุชนทั่วไป ท่านอบรมสั่งสอนให้ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างดีตลอดมา ด้านหน้าที่สงฆ์ของหลวงพ่อจุล นับแต่ปี พ.ศ.2470 ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง ปี พ.ศ.2471 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลสลกบาตร ปี พ.ศ.2478 ได้รับตราตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ปี พ.ศ.2487 ได้รับแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการจังหวัดและเป็นกรรมการตรวจสอบนักธรรม 
ภาพที่ 4 ศาลาทรงไทยพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน.jpg

ภาพที่ 4 ศาลาทรงไทยพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน

         ท่านมีคุณาประการแก่พระศาสนาอเนกประการนับว่าท่านเป็นอัฉริยะตั้งอยู่ในฐานะอภิปูชนียบุคคลสมเป็นที่เคารพนับถือและรักใคร่แก่ศิษยานุศิษย์ ญาติมิตรและสาธุชนทั่วไป ท่านได้อบรมสั่งสอนให้ประพฤติ ปฏิบัติตามธรรมวินัย คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างดีตลอดมา ครั้นอายุมาก สังขารร่วงโรย หลวงพ่อจุลมีอาการอาพาธเป็นเบาหวานและโรคปอด ญาติและศิษย์ช่วยกันนำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ แต่อาการป่วยของท่านทรุดลง ไม่บรรเทา หลวงพ่อจุลมรณภาพ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2512 สิริอายุได้ 74 ปี พรรษาที่ 51
ภาพที่ 5 บรรยากาศภายในวัด.jpg

ภาพที่ 5 บรรยากาศภายในวัด

ลักษณะทางสถาปัตยกรรม

         -

บุคคลที่เกี่ยวข้อง

         ชมรมพระเครื่องเมืองกำแพงเพชร

วิธี/ขั้นตอน/กระบวนการในการสักการะ

         ดอกไม้ ธูป เทียน

ข้อมูลการสำรวจ

แหล่งอ้างอิง

         เจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง ที่อยู่ 1 หมู่ 5 ตำบลสลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร โทร. 0-5577-1299
         ชมรมพระเครื่องเมืองกำแพงเพชร

วันเดือนปีที่สำรวจ

         วันที่ 2-3 มีนาคม 2562

วันปรับปรุงข้อมูล

         -

ผู้สำรวจข้อมูล

         นางสาวสุรินทร์  เพชรไทย

คำสำคัญ (tag)

         วัดหงษ์ทอง, หลวงพ่อจุล


2. ศาสนสถาน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 2.1. ข้อมูลทั่วไป 2.1.1. ชื่อเรียก วัดสิงคาราม 2.1.2. ศาสนา ศาสนาพุทธ มหานิกาย

2.1.3. ที่ตั้ง เลขที่ 1 หมู่ 1 ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร 62140 2.1.4. ที่ตั้งพิกัดทางภูมิศาสตร์ ละติจูด (Latitude) : 16.0005871 ลองติจูด (Longitude) : 99.8026453

2.1.5. หน่วยงานที่ดูแลรักษา สำนักงานพระพุทธศาสนา 2.1.6. สถานะการขึ้นทะเบียน ประเภท วัดราษฎร์

2.1.7. วัน/เดือน/ปีก่อสร้าง วันที่ตั้งวัด 2400 วันรับวิสุงคามสีมา 1 มกราคม 2506

2.2. ข้อมูลจำเพาะ 2.2.1. ประวัติความเป็นมา/คำบอกเล่า/ตำนาน วัดสิงคาราม เป็นวัดที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของชาวบ้านสลกบาตร สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีโบราณสถานและโบราณวัตถุเป็นที่เคารพสักการะของประชาชน วัดสิงคารามเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดกำแพงเพชร โดยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2521 ได้ต้อนรับการเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 10 สมัยทรงอิสริยยศเป็นสยามกุฏราชกุมาร ทรงเสร็จเป็นองค์ประธานตัดหวายลูกนิมิตควรแล้วที่ชาวสลกบาตรจะภูมิใจและช่วยกันทำนุบำรุง และวันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2560 ตั้งแต่เวลา 19.19 น. นายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดสิงคาราม ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร โดยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นสู่ยอดพระธาตุ เพื่อความเหมาะสม มีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก


ภาพที่ 1 พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นสู่ยอดพระธาตุ ที่มา : (เคพีพีนิวส์ข่าวจังหวัดกำแพงเพชร, 2561)

วัดสิงคาราม หรือวัดสิงห์ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองสลกบาตร มีองค์พระเก่าที่ชาวบ้านเรียก “หลวงปู่สิงห์”ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านตำบลสลกบาตรได้เคารพและนับถือ กันมาแต่ช้านานถือว่าเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ของตำบลสลกบาตร ปัจจุบันได้มีการบูรณะขึ้นมาอย่างสวยงามเพื่อให้ประชาชนชาวสลกบาตรหรือผู้ที่ผ่านมาไว้แวะมาสักการะบูชาและขอพร

ภาพที่ 2 พระธาตุสถานที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุ


ภาพที่ 3 หลวงปู่เจ้าวัดก่อนเริ่มบูรณะ ที่มา: (พร้อมเพรียง ภูริญาโณ, 2559)

วิหารหลวงปู่เจ้าวัด ทำฝ้าเพด้านด้วยไม้สักทอง รั้วแกะสลักประจำปีเกิด 12 ราศรี ภายในเป็นที่ประดิษฐานของหลวงปู่สิงห์ (หลวงปู่เจ้าวัด)

ภาพที่ 4 วิหารหลวงปู่เจ้าวัด


ภาพที่ 5 หลวงปู่สิงห์ (หลวงปู่เจ้าวัด) อุโบสถ (อ่านว่า อุ-โบ-สด) ถือเป็นอาคารที่สำคัญภายในวัดเนื่องจากเป็นสถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์ใช้ทำ สังฆกรรมซึ่งแต่เดิมในการทำสังฆกรรมของ พระภิกษุสงฆ์จะใช้เพียงพื้นที่โล่ง ๆ ที่กำหนดขอบเขตพื้นที่ สังฆกรรมโดยการกำหนดตำแหน่ง“สีมา” เท่านั้น แต่ในปัจจุบันจากการมีผู้บวชมากขึ้น อีกทั้งภายใน พระอุโบสถมักประดิษฐานพระประธานที่เป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญ ๆ ทำให้มีผู้มาสักการบูชาและร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก พระอุโบสถจึงถูกสร้าง ขึ้นเป็นอาคารถาวรและมักมี การประดับตกแต่งอย่างสวยงาม สำหรับอุโบสถเดิมของวัดสิงคารามจะเป็นอาคารชั้นเดียว ปัจจุบันชาวบ้านได้ร่วมใจกันสร้างอุโบสถหลังใหม่ มีความสวยงาน

ภาพที่ 6 อุโบสถหลังเก่าวัดสิงคาราม


ภาพที่ 7 อุโบสถหลังใหม่วัดสิงคาราม นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปให้ประชาชนได้กราบไหว้ในสถานที่ต่างๆอีกหลายจุด แล้วแต่ความศัรทธา

ภาพที่ 8 พระพุทธรูปภายในวัดสิงคาราม


ภาพที่ 9 ต้นตะเคียน

ภายในวัดบริเวณวิหารหลวงปู่เจ้าวัดมีต้นตะเคียน ที่ชาวบ้านให้ความเคารพและเข้ามากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก โดยนำดอกไม้ ผ้าสีต่างๆ ผูกไว้ด้วยความศรัทธา

2.2.2. ลักษณะทางสถาปัตยกรรม - 2.2.3. บุคคลที่เกี่ยวข้อง เจ้าอาวาสพระมหาพร้อมเพรียง ภูริญาโณ 2.2.4. วิธี/ขั้นตอน/กระบวนการในการสักการะ

ดอกไม้ ธูป เทียน

2.3. ข้อมูลการสำรวจ 2.3.1. แหล่งอ้างอิง เจ้าอาวาสพระมหาพร้อมเพรียง ภูริญาโณ เทศบาลตำบลสลกบาตร 2.3.2. วันเดือนปีที่สำรวจ วันที่ 9-10 มีนาคม 2562 2.3.3. วันปรับปรุงข้อมูล - 2.3.4. ผู้สำรวจข้อมูล นางสาวสุรินทร์ เพชรไทย 2.3.5. คำสำคัญ (tag) วัดสิงคาราม , หลวงปู่สิงห์, หลวงปู่เจ้าวัด, ต้นตะเคียน


3. ศาสนสถาน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3.1. ข้อมูลทั่วไป 3.1.1. ชื่อเรียก วัดสลกบาตร 3.1.2. ศาสนา ศาสนาพุทธ มหานิกาย

3.1.3. ที่ตั้ง หมู่ 3 ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร 62140 3.1.4. ที่ตั้งพิกัดทางภูมิศาสตร์ ละติจูด (Latitude) : 15.9853992 ลองติจูด (Longitude) : 99.8217401

3.1.5. หน่วยงานที่ดูแลรักษา สำนักงานพระพุทธศาสนา 3.1.6. สถานะการขึ้นทะเบียน ประเภท วัดราษฎร์

3.1.7. วัน/เดือน/ปีก่อสร้าง วันที่ตั้งวัด 30 ธันวาคม 2528 วันรับวิสุงคามสีมา -

3.2. ข้อมูลจำเพาะ 3.2.1. ประวัติความเป็นมา/คำบอกเล่า/ตำนาน วัดสลกบาตร เป็นวัดป่าที่รักษารูปแบบการถือศิลแบบพระธุดง เดิมใช้ชื่อว่า “สำนักพุทธรักษา” สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2524 นำโดยพระมหาแก้วพุทธรกขิโต ซึ่งชาวบ้านได้นิมนต์ท่านมาพำนักอยู่จำพรรษา เนื่องจากเป็นป่าธรรมชาติเหมาะแก่การเจริญสมณธรรม

ภาพที่ 1 ศาลาปฏิบัติธรรม


ภาพที่ 2 พระพุทธรูปภายในศาลาปฏิบัติธรรม

ต่อมาคุณจอยและคุณจันทร์ เรืองศรีจันทร์และครอบครัว ได้ยกที่ดินจำนวน 6 ไร่ เพื่อใช้สร้างวัดใช้ชื่อว่าสำนักสงฆ์พุทธรักษา และมีการพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นลำดับ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ 2528 ได้ประกาศตั้งวัดใช้ชื่อว่าวัด “สลกบาตร” โดยมีพระครูวชิรประภากร เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสในขณะนั้น

ภาพที่ 3 หลวงพ่อทันใจ วัดสลกบาตร เป็นวัดป่าที่รักษารูปแบบการถือศีลแบบพระธุดงค์ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า

“วัดป่าสลกบาตร” วัดสลกบาตรได้จัดให้มีการบวชชีพราหมณ์บ่อยครั้งและได้สร้างองค์พระขนาดใหญ่ คือ “หลวงพ่อทันใจ”      ซึ่งชาวสลกบาตรร่วมแรงร่วมใจกันสร้างเสร็จภายในวันเดียวเพื่อให้ประชาชนชาวสลกบาตรหรือผู้ที่ผ่านไปมาได้แวะสักการะบูชาขอพร

3.2.2. ลักษณะทางสถาปัตยกรรม - 3.2.3. บุคคลที่เกี่ยวข้อง 3.2.4. วิธี/ขั้นตอน/กระบวนการในการสักการะ

ดอกไม้ ธูป เทียน

3.3. ข้อมูลการสำรวจ 3.3.1. แหล่งอ้างอิง พร้อมเพรียง ภูริญาโณ. (2559). หลวงปู่สิงห์ (หลวงปู่เจ้าวัด) ก่อนเริ่มบูรณะ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.facebook.com/WadSingKhaRamSalokbat/. [2562, มีนาคม 20].

_______ . (2559). วิหารหลวงปู่สิงห์ (หลวงปู่เจ้าวัด) ก่อนเริ่มบูรณะ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.facebook.com/WadSingKhaRamSalokbat/. [2562, มีนาคม 20].

มติชนสุดสัปดาห์. (2561). โฟกัสพระเครื่อง. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://www.matichonweekly.com/column/article_106257. [2562, มีนาคม 10].

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2561). ตำบลสลกบาตร. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://th.wikipedia.org/wiki/ตำบลสลกบาตร. [2562, มีนาคม 10].

Jasminta. (2562). 30 วัด UNSEEN ในเมืองไทย สวยแค่ไหนต้องไปดู. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: https://travel.mthai.com/blog/142618.html. [2562, มีนาคม 12]. 3.3.2. วันเดือนปีที่สำรวจ วันที่ 9-10 มีนาคม 2562 3.3.3. วันปรับปรุงข้อมูล - 3.3.4. ผู้สำรวจข้อมูล นางสาวสุรินทร์ เพชรไทย 3.3.5. คำสำคัญ (tag) วัดสลกบาตร , หลวงพ่อทันใจ, สำนักพุทธรักษา