การจัดการการสื่อสารเพื่ออบรมเลี้ยงดูลูกในครอบครัวของจังหวัดยะลา
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพแวดล้อมทางการสื่อสารในครอบครัวของจังหวัดยะลา
2) ศึกษารูปแบบการจัดการการสื่อสารเพื่ออบรมเลี้ยงดูลูกในครอบครัวจังหวัดยะลา 3) ปัญหาและอุปสรรคในการสื่อสารเพื่ออบรมเลี้ยงดูลูกในครอบครัวจังหวัดยะลา การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาโดยใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และการสังเกต ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง จำนวน 10 คน เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพแวดล้อมทางการสื่อสารในครอบครัวของจังหวัดยะลาปัจจัยภายในบุคคล ครอบครัวมีอายุระหว่าง 33-45 ปี เป็นเพศหญิง 7 คน เพศชาย 3 คน มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 3 คน ปวส. จำนวน 4 คน ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 3 คน มีรายได้เฉลี่ยต่อครอบครัว 15,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่จะสื่อสารด้วยการนั่งพูดคุยกัน และสื่อสารผ่านโทรศัพท์และสื่อออนไลน์ ปัจจัยภายนอกบุคคล พบว่า เป็นครอบครัวเดี่ยวจำนวน 8 ครอบครัว ครอบครัวขยาย 2 ครอบครัว ส่วนใหญ่ใช้เวลาตอนเย็นหลังเลิกงานในการพูดคุยเพื่อสอบถามปัญหา พูดจาหยอกล้อกัน และครอบครัวที่ได้ให้การสัมภาษณ์เป็นครอบครัวชาวไทยพุทธจำนวน 7 ครอบครัวเป็นชาวมุสลิม 3 ครอบครัว 2) รูปแบบการจัดการการสื่อสารเพื่ออบรมเลี้ยงดูลูกในครอบครัวจังหวัดยะลาใช้รูปแบบการสื่อสารแบบประนีประนอม รูปแบบปกป้อง และรูปแบบเปิดเสรีตามลำดับ 3) ปัญหาและอุปสรรคในการสื่อสารเพื่ออบรมเลี้ยงดูลูกในครอบครัวจังหวัดยะลา พบว่า แต่ละครอบครัวใช้เทคโนโลยีการสื่อสารมากขึ้น แต่การพูดคุยแบบเผชิญหน้าลดลง
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2022 วารสารสาร สื่อ ศิลป์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสาร สาร สื่อ ศิลป์ นี้เป็นวารสารที่อยู่ภายใต้ creative commons attribution-noncommercial-noderivatives 4.0 international (cc by-nc-nd 4.0). เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น