กำลังแก้ไข ฐานข้อมูล เรื่อง วัดพระแก้ว

ไบยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

คำเตือน: คุณมิได้ล็อกอิน สาธารณะจะเห็นเลขที่อยู่ไอพีของคุณหากคุณแก้ไข หากคุณล็อกอินหรือสร้างบัญชี การแก้ไขของคุณจะถือว่าเป็นของชื่อผู้ใช้ของคุณ ร่วมกับประโยชน์อื่น

สามารถย้อนการแก้ไขนี้กลับได้ กรุณาตรวจสอบข้อแตกต่างด้านล่างเพื่อทวนสอบว่านี่เป็นสิ่งที่คุณต้องการทำ แล้วบันทึกการเปลี่ยนแปลงด้านล่างเพื่อเสร็จสิ้นการย้อนการแก้ไขกลับ
รุ่นแก้ไขปัจจุบัน ข้อความของคุณ
แถว 33: แถว 33:
 
[[ไฟล์:แสดงถึงภาพจำลองวัดพระแก้ว.jpg|400px|thumb|center]]
 
[[ไฟล์:แสดงถึงภาพจำลองวัดพระแก้ว.jpg|400px|thumb|center]]
 
<p align = "center"> '''ภาพที่ 4''' แสดงถึงภาพจำลองวัดพระแก้ว<br> (ผู้นิพนธ์สร้างสรรค์เอง)</p>
 
<p align = "center"> '''ภาพที่ 4''' แสดงถึงภาพจำลองวัดพระแก้ว<br> (ผู้นิพนธ์สร้างสรรค์เอง)</p>
           ส่วนที่ว่าทำไมถึงมีชื่อว่า “วัดพระแก้ว” ก็มาจากตำนานพระแก้วมรกต เล่าลัดตัดตอนมาที่เมื่อพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่เมืองกำแพงเพชรได้ระยะหนึ่ง ทำให้เมืองกำแพงเพชรมีชื่อเสียงว่าเป็นเมืองสำคัญในทางพระพุทธศาสนา บรรดาหัวเมืองฝ่ายเหนือคิดจะแย่งชิงพระแก้วมรกตไป แต่ไม่สำเร็จ กระทั่งเจ้าเมืองเชียงรายยกกองทัพใหญ่มีไพร่พลนับแสนมาที่กำแพงเพชร เพื่อทูลขอพระแก้วมรกต ด้วยแสนยานุภาพของกองทัพเมืองเชียงราย เจ้าเมืองกำแพงเพชรจึงจำใจให้ไปด้วยความโศกเศร้าของอาณาประชาราษฎร์ ต่อมามีการทำศึกแย่งชิงพระแก้วมรกตกันอีกหลายครั้งจนเจ้าเมืองเชียงรายนำพระแก้วมรกตไปซ่อนไว้ภายในพระเจดีย์ วัดป่าเยี้ยะ ซึ่งอยู่ในเชียงรายนั่นเอง จึงทำให้พระแก้วมรกตหายสาบสูญไปตั้งแต่บัดนั้น
+
           ส่วนที่ว่าทำไมถึงมีชื่อว่า “วัดพระแก้ว” ก็มาจากตำนานพระแก้วมรกต เล่าลัดตัดตอนมาที่เมื่อพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่เมืองกำแพงเพชรได้ระยะหนึ่ง ทำให้เมืองกำแพงเพชรมีชื่อเสียงว่าเป็นเมืองสำคัญในทางพระพุทธศาสนา บรรดาหัวเมืองฝ่ายเหนือคิดจะแย่งชิงพระแก้วมรกตไป แต่ไม่สำเร็จ กระทั่งเจ้าเมืองเชียงรายยกกองทัพใหญ่มีไพร่พลนับแสนมาที่กำแพงเพชร เพื่อทูลขอพระแก้วมรกต ด้วยแสนยานุภาพของกองทัพเมืองเชียงราย เจ้าเมืองกำแพงเพชรจึงจำใจให้ไปด้วยความโศกเศร้าของอาณาประชาราษฎร์ ต่อมามีการทำศึกแย่งชิงพระแก้วมรกตกันอีกหลายครั้งจนเจ้าเมืองเชียงรายนำพระแก้วมรกตไปซ่อนไว้ภายใน
 +
พระเจดีย์ วัดป่าเยี้ยะ ซึ่งอยู่ในเชียงรายนั่นเอง จึงทำให้พระแก้วมรกตหายสาบสูญไปตั้งแต่บัดนั้น
 
           จนกระทั่งเกิดฟ้าผ่าพระเจดีย์จึงทำให้พบเห็นพระแก้วมรกตอีกครั้ง คราวนี้เจ้าเมืองเชียงใหม่อัญเชิญพระแก้วมรกตไปไว้ที่เชียงใหม่ แต่มาถึงกลางทางช้างที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตไม่ยอมเดิน แต่กลับไปที่เมืองเขลางค์นคร (ลำปาง) จึงต้องประดิษฐานพระแก้วมรกตไว้ที่นครลำปาง  
 
           จนกระทั่งเกิดฟ้าผ่าพระเจดีย์จึงทำให้พบเห็นพระแก้วมรกตอีกครั้ง คราวนี้เจ้าเมืองเชียงใหม่อัญเชิญพระแก้วมรกตไปไว้ที่เชียงใหม่ แต่มาถึงกลางทางช้างที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตไม่ยอมเดิน แต่กลับไปที่เมืองเขลางค์นคร (ลำปาง) จึงต้องประดิษฐานพระแก้วมรกตไว้ที่นครลำปาง  
 
           ต่อมาพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์เชียงใหม่ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากลำปางไปไว้ที่สถูปเจดีย์หลวง เมืองเชียงใหม่ เมื่อเกิดศึกเชียงใหม่กับลาว พระเจ้าไชยเชษฐาได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปไว้ที่นครหลวงพระบาง แล้วต่อมาย้ายไปที่เมืองเวียงจันทน์ในที่สุด พระแก้วมรกตอยู่ในเวียงจันทน์มาเป็นเวลาประมาณ 200 ปี จนสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี เมื่อเสร็จศึกเมืองเวียงจันทน์ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมายังพลับพลาที่วัดแจ้ง (วัดอรุณราชวราราม)
 
           ต่อมาพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์เชียงใหม่ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากลำปางไปไว้ที่สถูปเจดีย์หลวง เมืองเชียงใหม่ เมื่อเกิดศึกเชียงใหม่กับลาว พระเจ้าไชยเชษฐาได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปไว้ที่นครหลวงพระบาง แล้วต่อมาย้ายไปที่เมืองเวียงจันทน์ในที่สุด พระแก้วมรกตอยู่ในเวียงจันทน์มาเป็นเวลาประมาณ 200 ปี จนสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี เมื่อเสร็จศึกเมืองเวียงจันทน์ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมายังพลับพลาที่วัดแจ้ง (วัดอรุณราชวราราม)

โปรดระลึกว่างานเขียนทั้งหมดใน KPPStudies อาจถูกผู้เขียนอื่นแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือนำออก หากคุณไม่ต้องการให้งานของคุณถูกแก้ไข ก็อย่าส่งเข้ามา
นอกจากนี้ คุณยังสัญญาเราว่าคุณเขียนงานด้วยตนเอง หรือคัดลอกจากสาธารณสมบัติหรือทรัพยากรเสรีที่คล้ายกัน (ดูรายละเอียดที่ KPPStudies:ลิขสิทธิ์) อย่าส่งงานมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต!

ยกเลิก คำอธิบายการแก้ไข (เปิดหน้าต่างใหม่)