ของดีของมอกล้วยไข่จังหวัดกำแพงเพชร

จาก KPPStudies
ไบยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

บทนำ[แก้ไข]

         มอกล้วยไข่เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากกล้วยไข่และพืชผักผลไม้ ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินสายเอเชียหมายเลข 1 สายกำแพงเพชร – นครสวรรค์ กิโลเมตรที่ 343 ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองกำแพงเพชร ประมาณ 10 กิโลเมตร มีร้านขายวางเรียงรายยาวประมาณ 200 เมตร ซึ่งสินค้าในตลาดมอกล้วยไข่เป็นแหล่งภูมิปัญญารวมสินค้าของคนในชุมชน ประกอบไปสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูป ร้านค้า ในตลาดเปิดให้บริการตลอดทั้งวันแต่ปัจจุบันภายใต้สถานการณ์โควิด19 ทำให้มีการปรับเปลี่ยนเวลาปิดเป็นเวลาประมาณ 21.00 น. ตามมาตรการของภาครัฐ ทั้งนี้การศึกษาเรื่อง “ของดีของมอ กล้วยไข่จังหวัดกำแพงเพชร” จึงมีความสำคัญกับระบบเศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของคนในชุมชนอย่างยืน บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ประวัติความเป็นมา 2) ประเภทผลิตภัณฑ์และขั้นตอนกระบวนการผลิต

คำสำคัญ: ของดีเมืองกล้วยไข่, ตลาดมอกล้วยไข่, ของฝากมอกล้วยไข่

ประวัติความเป็นมา[แก้ไข]

         ตลาดเป็นศูนย์กลางการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าที่สำคัญของชุมชนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตลาดส่วนใหญ่สร้างขึ้นตามความต้องการของประชาชนที่อาศัยอยู่รอบชุมชนนั้น แม้ว่าสภาพของชุมชนและการดำรงชีวิตของคนในชุมชนหรือสังคมจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใดก็ตาม ตลาดยังคงมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของคนในชุมชน โดยเฉพาะแหล่งชุมชนที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น ตามนโยบายของรัฐบาล  ที่ส่งเสริมให้คนไทยอยู่เย็นเป็นสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและอายุยืนยาว มีสัมมาอาชีพและรายได้ทั่วถึง จึงกำหนดนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารขึ้นเพื่อรณรงค์และเผยแพร่คุณภาพและมาตรฐานอาหารไทยให้เป็นที่แพร่หลาย ตลอดจนเพื่อให้คนไทยบริโภคอาหารที่ถูกสุขอนามัย (ประพล  จิตคติ, การันต์  เจริญสุวรรณ, สุภาภรณ์  หมั่นหา และยุชิตา  กันหามิ่ง, 2558, หน้า 237) สรุปได้ว่า ตลาดเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้า ปัจจุบันตลาดส่วนใหญ่ดูจากความต้องการของชุมชนนั้น ตามสภาพแวดล้อมและการดำรงชีวิตในชุมชน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในชุมชนได้ร่วมมือตามนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารให้คนดำรงชีวิตตามมาตรฐานและสุขอนามัย
         จังหวัดกำแพงเพชรมีชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นชุมชนโบราณขนาดใหญ่ที่มีผู้คนอาศัยมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบันจึงทำให้ชุมชนเหล่านั้นมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ยังเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นทางศิลปะวิทยาการที่ได้รับอิทธิพลจากเมืองสุโขทัยเข้ามาสู่ จังหวัดกำแพงเพชร ที่ยังคงความงดงามของโบราณสถานที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก อีกทั้ง ชุมชนโบราณ ที่ยังคงเอกลักษณ์ของชุมชนไว้คือ ตลาดย้อนยุคนครชุม ที่เป็นตลาดที่สะท้อนความ เป็นวัฒนธรรมของชุมชนในจังหวัดกำแพงเพชรเป็นอย่างดีทั้งวัฒนธรรมอาหารคาว อาหารหวาน อีกทั้งจังหวัดกำแพงเพชรยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับสินค้าการเกษตร คือ กล้วยไข่ซึ่งเป็นพืช เศรษฐกิจประจำจังหวัดกำแพงเพชรนอกจากนี้ยังมีตลาดริมทางมอกล้วยไข่ที่เป็นแหล่งรวมสินค้าแปรรูปจากกล้วยไข่ของคนในชุมชน (ประพล  จิตคติ และคนอื่น ๆ, 2558, หน้า 237) สรุปได้ว่า กำแพงเพชรมีความหลากหลายของวัฒนธรรมเป็นชุมชนโบราณตั้งแต่สมัยสุโขทัยและมีวัฒนธรรมที่โดดเด่นด้านศิลปะอีกทั้งยังมีชุมชนโบราณที่คงเอกลักษณ์ของชุมชนและสะท้อนความเป็นวัฒนธรรมของชุมชนในจังหวัดกำแพงเพชรได้ดี 
         ‘ตลาดมอกล้วยไข่’กำแพงเพชร – ตลาดริมทาง ‘ตลาดมอกล้วยไข่’ จ.กำแพงเพชร เป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญที่กรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์เลือกมาส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาให้เป็น ‘ตลาดริมทาง’ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข้มแข็งจากชุมชนและท้องถิ่นฐานตลาดริมทาง ‘ตลาดมอกล้วยไข่’ จ.กำแพงเพชร เป็น 1 ใน 5 ตลาดริมทาง บนถนนสายหลักของประเทศขึ้นภาคเหนือที่ผ่านแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งหลายจังหวัด นับเป็นจุดซื้อขายสินค้าที่น่าแวะในจังหวัดกำแพงเพชร กระทั่งช่วงปี พ.ศ.2516-2520 กลุ่มชาวบ้านได้นำผลผลิตพืชไร่ที่เหลือจากการบริโภค มาตั้งแผงขายกันบริเวณริมทางเพียง 4-5 ร้าน และนำ ‘กล้วยไข่’ มาวางขายเป็นเครือก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มนำกล้วยมาแปรรูป แสดงให้เห็นว่า การนำพืชจากไร่จากสวนที่เหลือสามารถนำมาแปรรูปเพื่อจำหน่ายเป็นของฝากและสามารถเก็บไว้ได้นาน สำหรับตลาดริมทาง ‘ตลาดมอกล้วยไข่’ ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินสายเอเชียหมายเลข 1 สายกำแพงเพชร – นครสวรรค์ กิโลเมตรที่ 343 มีร้านขายวางเรียงรายยาวประมาณ 200 เมตร จากตลาดมอกล้วยไข่สามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ใน จ.กำแพงเพชร ได้ง่าย เช่น อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ที่องค์การยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนเป็น ‘มรดกโลก’ เมื่อปี 2534 หรือจะไปสักการะวัดพระบรมธาตุ เจดียาราม นครชุม ที่อยู่คู่เมืองนครชุมมายาวนานกว่า 600 ปี ปัจจุบันตลาดมอกล้วยไข่เป็นตลาดริมทางหลวงที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากล้วยหลายชนิด ได้แก่ กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ เผือก มัน ฯลฯ ร้านค้าในตลาดเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้มีลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง (ข่าวสดออนไลน์, 2562) สรุปได้ว่า ตลาดมอกล้วยไข่เป็น 1 ใน 5 ของตลาดริมทาง ตลาดริมทาง มอกล้วยไข่เป็นหนึ่งตลาดที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชนให้เข้มแข็ง
         นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มอบนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์ ส่งเสริมยกระดับพัฒนาตลาดชุมชนให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และทำให้เกิดความเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่ในจังหวัดนั้นๆการเข้ามาส่งเสริมพัฒนาตลาดมอกล้วยไข่ ของกรมการค้าภายใน เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ช่วยให้เกิดกิจกรรมการค้าขายและการท่องเที่ยวควบคู่กันไป ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในชุมชน เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างโอกาส และช่องทางการกระจายสินค้าเกษตร และสินค้าอื่นๆ แก่ผู้ค้าของชุมชน และสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าดีมีคุณภาพ มาตรฐาน ราคาเป็นธรรมแสดงให้เห็นว่า นายสมคิดเป็นตัวต้นคิดช่วยหารายได้ให้กับชุมชนและชาวบ้านแถวนั้นได้มีอาชีพไม่ว่าจะเป็นการเกษตรหรือผู้ว่างงาน ได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์และเลี้ยงชีพตนและครอบครัว (ข่าวสดออนไลน์, 2562)
         จากผลการสำรวจตลาดมอกล้วยไข่ ขอยกตัวอย่าง 2 ร้าน คือ 1) ร้านยายเหรียญ เป็นร้านขายของฝากได้แก่ กล้วยอบเนยน้ำผึ้ง เผือกอบเนย กล้วยปาปริก้า กล้วยเบรคแตก เผือกเส้นเค็ม รายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณ 2,000 ถึง 3,000 บาท โดยทางร้านมีทั้งการขายหน้าร้าน และทางเพจบนเฟซบุ๊ค โดยส่วนใหญ่ ลูกค้าที่สั่งเข้ามาจะเป็นลูกค้าจากต่างจังหวัด จอดรถซื้อติดไม้ติดมือกลับจากเที่ยวในเทศกาลต่าง ๆ จากนั้นก็แชร์ ๆ ต่อ ๆ กัน ทำให้ทางร้านมีรายได้ 2 ทางแต่เนื่องด้วยปัจจุบันทำให้พบปัญหาโควิด ทำให้รายได้ลดลง 2) ร้านป้าเลี่ยม ร้านป้าเลี่ยมตลาดมอกล้วยไข่ ขายของฝาก signature ของร้านคือ กล้วยฉาบ กล้วยปาปริก้า มันเส้นเค็ม รายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3,500 ถึง 4,000 เนื่องจากเจอสถานการณ์โควิดเข้ามา ทำให้รายได้และลูกค้าที่มาซื้อหน้าร้านลดลงทางร้านจึงปรับตัวร่วมกับขายของออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นทางเพจเฟซบุ๊ค หรือทางช้อปปี้ ทำให้มีลูกค้าสั่งเข้ามาทางออนไลน์และมีรายได้เพิ่มขึ้น สรุปได้ว่า จากการสำรวจทั้ง 2 ร้าน มีค่าเฉลี่ยต่อวัน 2,000 ถึง 4,000 เนื่องเจอสถานการณ์โควิดเข้ามาทำให้รายได้และลูกค้าที่มาซื้อหน้าร้านลดลงทางร้านจึงปรับตัวร่วมกับขายของออนไลน์ 
         สินค้าในตลาดมอกล้วยไข่เป็นแหล่งรวมสินค้าแปรรูปของคนในชุมชนมอกล้วยไข่มีสินค้าหลากหลายและของใช้ในครัวเรือน อาทิเช่น กล้วยอบเนย, เผือกทอดเค็ม, กล้วยเบรกแตก, ไม้กวาดดอกหญ้า, ตะกร้าสาน ฯลฯ มีราคาประหยัดและมีคุณภาพ อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดใกล้เคียง ดังภาพ 1-4
ภาพที่ 1 กล้วยอบเนย.jpg

ภาพที่ 1 กล้วยอบเนย

ภาพที่ 2 เผือกทอดเค็ม.jpg

ภาพที่ 2 เผือกทอดเค็ม

ภาพที่ 3 กล้วยเบรคแตก.jpg

ภาพที่ 3 กล้วยเบรคแตก

ภาพที่ 4 ไม้กวาดดอกหญ้า.jpg

ภาพที่ 4 ไม้กวาดดอกหญ้า

         สินค้าและมอกล้วยไข่ สามารถหาซื้อได้ที่ ตลาดมอกล้วยไข่ จังหวัดกำแพงเพชร สถานที่ ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินสายเอเชียหมายเลข 1 สายกำแพงเพชร – นครสวรรค์กิโลเมตรที่ 343 มีร้านขายวางเรียงรายยาวประมาณ 200 เมตร ตำบลอ่างทอง อำเภอเมืองกำแพงเพชร กำแพงเพชร 62000 ผู้เขียนสรุปได้ว่า ตลาดเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้า ปัจจุบันตลาดส่วนใหญ่ดูจากความต้องการของชุมชนนั้น ตามสภาพแวดล้อมและการดำรงชีวิตในชุมชน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในชุมชนได้ร่วมมือตามนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารให้คนดำรงชีวิตตามมาตรฐานและสุขอนามัยกำแพงเพชรมีความหลากหลายของวัฒนธรรมเป็นชุมชนโบราณตั้งแต่สมัยสุโขทัยและมีวัฒนธรรมที่โดดเด่นด้านศิลปะอีกทั้งยังมีชุมชนโบราณที่คงเอกลักษณ์ของชุมชนและสะท้อนความเป็นวัฒนธรรมของชุมชนในจังหวัดกำแพงเพชรได้ดีตลาดมอกล้วยไข่เป็น 1 ใน 5ตลาดริมทาง ตลาดริมทางมอกล้วยไข่เป็นหนึ่งตลาดที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชนให้แข็งแรง ในปี 2516-2520 มีการริเริ่มจาการนำกล้วยที่เป็นผลิตภัณฑ์จากการสำรวจทั้ง 2 ร้าน มีค่าเฉลี่ยต่อวัน 2000-4000 เนื่องเจอสถานการณ์โควิดเข้ามาทำให้รายได้และลูกค้าที่มาซื้อหน้าร้านลดลงทางร้านจึงปรับตัวร่วมกับขายของออนไลน์

ประเภทผลิตภัณฑ์และขั้นตอนกระบวนการผลิต[แก้ไข]

         จากการสัมภาษณ์ เสนอ จำเรียง (การสัมภาษณ์, 26 ตุลาคม 2564) อายุ 65 ปี เจ้าของร้านมอกล้วยไข่ พบว่า ประเภทผลิตภัณฑ์ในตลาดมอกล้วยไข่ จังหวัดกำแพงเพชรเพชร มีผลิตภัณฑ์จากกล้วยและพืชผักผลไม้ที่หลากหลาย ประกอบด้วย 1.กล้วยอบเนย 2.กล้วยเบรกแตก (กล้วยสุกทอด) 3.กล้วยน้ำว้าตาก 4.เผือกเส้นเค็ม 5.เผือกทอดเค็ม 6.ฝักทองอบเนย 7.มันสีม่วงอบเนย 8.ไม้กวาดดอกหญ้า ฯลฯ ดังภาพที่ 5-14
ภาพที่ 1 กล้วยอบเนย.jpg

ภาพที่ 5 กล้วยอบเนย

1. กล้วยอบน้ำผึ้ง
  ส่วนผสม
      1. กล้วยน้ำว้าดิบ 5 กิโลกรัม
      2. น้ำตาลปิ๊ป 600 กรัม
      3. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
      4. มาการีน 400 กรัม
      5. น้ำมันพืชสำหรับทอด
   วิธีทำ
      1. ล้างกล้วยน้ำว้าให้สะอาด ปอกเปลือกแช่ในน้ำเกลือ 5 นาที จากนั้นฝานเป็นชิ้น ๆ ผึ่งในตะแกรงพอหมาด นำใส่ถุงพลาสติกพักไว้ 10 ชั่วโมง
      2. นำกล้วยในถุงมาแกะออกเป็นชิ้น ๆ ไม่ให้กล้วยเกาะติดกัน
      3. ผสมน้ำตาล มาการีน เกลือ ให้เข้ากัน
      4. ตั้งกะทะเทน้ำมันลงไปให้ร้อน
      5. ชั่งกล้วย 2.5 กิโลกรัม ส่วนผสมน้ำตาล มาการีน 500 กรัม รวมกัน เทลงไปในกระทะที่น้ำมันร้อนทอดจนกล้วยเหลือง ตักออก ใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน (คมสัน เงินกระแชง, 2556)
ภาพที่ 3 กล้วยเบรคแตก.jpg

ภาพที่ 6 กล้วยเบรคแตก

2. กล้วยเบรกแตก
  ส่วนผสม
     1. กล้วยน้ำว้าสุกเหลืองแก่จัด
     2. น้ำมันพืช
  วิธีทำ
     1. ปอกกล้วย และใช้เครื่องไสแล้วลองด้วยภาชนะพลาสติก
     2. กระทะเบอร์ใหญ่และใส่น้ำมันตั้งให้ร้อน
     3. เทกล้วยที่ไสแล้วลงในกระทะใช้ไม้ปลายแหลมคอยคนกล้วย จนกว่ากล้วยจะสุกเหลืองได้ที่
     4. ใช้ตะแกงตักกล้วยขึ้นแล้วพักทิ้งไว้
     5. เกลี่ยกล้วยให้กระจายและทิ้งไว้เย็น
     6. บรรจุลงในถุงพลาสติกไม่ให้อากาศเข้า (อภัย  นามเพ็ง, 2560)
ภาพที่ 10 กล้วยน้ำว้าตาก.jpg

ภาพที่ 7 กล้วยน้ำว้าตาก

3. กล้วยน้ำว้าตาก
  ส่วนผสม
     1. กล้วยน้ำว้าแก่
     2. เกลือป่น
     3. น้ำ
  วิธีทำ
     1. เตรียมวัตถุดิบ และอุปกรณ์สำหรับการทำกล้วยตาก โดยวัตถุดิบหลักก็คือ กล้วยน้ำว้าสุก ปริมาณตามความต้องการ ถาด หรือกระจาดสำหรับใช้จัดเรียงวางกล้วยตาก
     2. เตรียมกล้วย โดยการปอกเปลือกออก
     3. นำกล้วยที่ปอกแล้ววางบนเขียงพลาสติกหรือใช้ถุงพลาสติกรอง ใช้ขวดแก้วสะดวกกลิ้งกดกล้วยให้แบน
     4. นำกล้วยที่กดแบนแล้วเรียงใส่ถาด เมื่อเรียงจนเต็มถาดแล้ว ใช้แผ่นพลาสติกแรปอาหาร หรือถุงพลาสติกใบใหญ่ๆ คลุมเพื่อกันฝุ่นและแมลง
     5. นำไปตากแดดจัด ๆ พอครึ่งวันให้กลับด้านกล้วย ตากแดดและกลับกล้วยอย่างนี้ 2 วัน เมื่อกล้วยแห้งได้ที่แล้วเก็บใส่ภาชนะพร้อมรับประทานได้เลย (Peeranat, 2563)
ภาพที่ 7 เผือกเส้นเค็ม.jpg

ภาพที่ 8 เผือกเส้นเค็ม

4. เผือกเส้นเค็ม
  ส่วนผสม
     1. เผือกหอม ½ กิโลกรัม
     2. น้ำมันพืช ½ ขวด
     3. เกลือป่น 1 ช้อนชา
     4. น้ำปูนใส
  วิธีทำ
     เผือกปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นๆพยายามให้หนาเท่าๆกันนำไปทอดในน้ำมันใช้ไฟปานกลางจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ ตั้งกระทะใช้ไฟอ่อนๆใส่น้ำเปล่า น้ำตาล เกลือ และวนิลา เคี่ยวจนเดือด นำเผือกทอดลงไปคลุกน้ำตาลเบา ๆ ซักพักปิดไป คลุกต่อจนน้ำตาลเกาะเป็นเกร็ดขาว ตักขึ้นผึ่งจนเย็นพร้อมเสริฟหรือเก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด (KHANKRADI, 2563)
ภาพที่ 2 เผือกทอดเค็ม.jpg

ภาพที่ 9 เผือกทอดเค็ม

5. เผือกทอดเค็ม
  ส่วนผสม
     1. เกลือครึ่งกก.
     2. น้ำ 3 ลิตร
  วิธีการทำ
     1. ใช้น้ำเกลือ 1 ทัพพี ต่อ การทอด 1 กระทะ โดยค่อย ๆ เติมลงไปตอนที่ทอดเผือก-มันสุกแล้ว ซึ่งสังเกตได้จากที่เผือก-มันเริ่มแข็งตัวและลอยขึ้นมา เมื่อเติมน้ำเกลือแล้วทอดต่อไปอีกประมาณ 5 นาที แล้วตักขึ้นได้เลย
     2. การเติมน้ำเกลือลงไปขณะทอดจะช่วยให้เผือก-มันที่ฉาบบรรจุถุงไว้ กรอบและไม่ชื้น ซึ่งจะทำให้สามารถรักษาความกรอบไว้ได้นานกว่าการโรยเกลือเม็ดปกติ (รักบ้านเกิด, 2556)
ภาพที่ 9 ฟักทองอบเนย.jpg

ภาพที่ 10 ฟักทองอบเนย

6. ฟักทองอบเนย
  ส่วนผสม
     1. ฟักทองแก่ ½ กิโลกรัม
     2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
     3. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ.
     4. น้ำสะอาด ½ ถ้วยตวง
     5. น้ำปูนใส 2 ถ้วยตวง
  วิธีทำ
     1. ล้างฟักทองให้สะอาด และผึ่งให้แห้ง
     2. หั่นฟักทองให้เป็นแผ่นบางๆ
     3. นำฟักทองไปแช่น้ำปูนใส   30  นาที
     4. นำฟักทองขึ้นผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ผึ่งให้แห้ง
     5. นำฟักทองไปทอด ใช้ไฟร้อนจัด คนให้ให้ความร้อนกระจายได้อย่างทั่วถึง  ทอดจนให้สีของฟักทองเป็นสีเหลืองทอง และกรอบ
     6. ตักฟักทองที่ได้แล้วใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน
     7. นำน้ำตาลไปต้มกับน้ำ แล้วเคี่ยวจนแห้งลงไปเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกว่าใกล้จะเป็นเม็ด
     8. ใส่ฟักทองลงไปคลุกเคล้าได้เลย (Chandra, 2564)
ภาพที่ 8 มันม่วงอบเนย.jpg

ภาพที่ 11 มันม่วงอบเนย

7. มันม่วงอบเนย
  ส่วนผสม
     1. น้ำเปล่า 1 ลิตร
     2. น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
     3. น้ำมันรำข้าว 200 มิลลิลิตร
     4. มันม่วงสไลด์ 500 กรัม
  ส่วนผสมน้ำตาลเคลือบมันม่วง
     1. น้ำเปล่า ¼  ส่วน
     2. น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
     3. เกลือ ½ ช้อนชา
  วิธีทำ
     1. ปอกเปลือกมันม่วงแล้วนำมาสไลค์ให้บางแช่น้ำเปล่าและน้ำปูนใสแช่ประมาณ 10 นาทีแล้วเทน้ำทิ้ง
     2. ตั้งน้ำมันให้ร้อนเสร็จก็นำมันม่วงฉาบลงไปทอดจนแห้งกรอบจากนั้นก็สะเด็ดน้ำมันแล้วซับน้ำมันให้แห้ง
     3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำเปล่าเล็กน้อยจากนั้นก็ใส่น้ำตาลและเกลือ กวนจนน้ำตาลลายเสร็จแล้วก็นำมันม่วง (monkeytan, 2562)
ภาพที่ 4 ไม้กวาดดอกหญ้า.jpg

ภาพที่ 12 ไม้กวาดดอกหญ้า

8. ไม้กวาดดอกหญ้า
  ขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์
     1. เตรียมดอกหญ้า จะเป็นดอกหญ้าตองกง ดอกอ้อ หรือดอกแขมก็ได้
     2. ไม้ไผ่ความยาวประมาณ 80-28 เซนติเมตร หรือเอาตามที่เราคิดว่าจับแล้วถนัดมือที่สุด
     3. เชือกฟางแนะนำเกรดที่ดี ๆ หน่อย เพื่อความคงทน
     4. เข็มเย็บกระสอบ
     5. ตะปู
  วิธีทำไม้กวาด
     1. ขั้นตอนแรกในการทำไม้กวาดดอกหญ้า คือ นำดอกหญ้ามาทำความสะอาดและตากให้แห้งสนิท ก็จะได้ไม้กวาดที่แข็งแรง คงทน และไม่หลุดง่ายเมื่อนำไปใช้งาน
     2. จากนั้นจึงนำดอกหญ้าประมาณ 1 กำมือมามัดรวมกันเป็นวงกลม
     3. นำเข็มเย็บกระสอบที่ร้อยเชือกฟางแล้วแทงกลางช่อดอกหญ้าที่มัดรวมไว้ แล้วถักขึ้น-ลงแบบหางปลาให้ได้ 3 ชั้น พร้อมจัดดอกหญ้าให้แบน
     4. เมื่อได้ทรงเรียบร้อยก็ตัดโคนดอกหญ้าให้เสมอกัน จากนั้นนำด้ามไม้ไผ่เสียบลงตรงกลางมัดดอกหญ้า แล้วนำเชือกฟางมามัดไว้ด้วยกัน
     5. จากนั้นก็ตอกตะปูยึดดอกหญ้ากับด้ามไม้ไผ่ให้แน่น เพื่อให้ไม้กวาดมีความแข็งแรงมากขึ้น (Dot Property, 2560)

บทสรุป[แก้ไข]

         การศึกษาเรื่อง “ของดีของมอ กล้วยไข่จังหวัดกำแพงเพชร” วัตถุประสงค์ 1) ประวัติความเป็นมา พบว่า ตลาดมอกล้วยไข่’กำแพงเพชร – ตลาดริมทาง ‘ตลาดมอกล้วยไข่ จ.กำแพงเพชร เป็น 1 ใน 5 ตลาดริมทาง บนถนนสายหลักของประเทศขึ้นภาคเหนือที่ผ่านแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งหลายจังหวัด นับเป็นจุดซื้อขายสินค้าที่น่าแวะ เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้าของชุมชนในจังหวัดกำแพงเพชร จุดเปลี่ยนที่สำคัญ คือ ช่วงประมาณปี พ.ศ.2516-2520 กลุ่มชาวบ้านได้นำผลผลิตพืชไร่ที่เหลือจากการบริโภค มาตั้งแผงขายกันบริเวณริมทางเพียง 4-5 ร้าน และนำ ‘กล้วยไข่’ มาวางขายเป็นเครือก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มนำกล้วยมาแปรรูป และขยายไปยังผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จนกระทั่งเป็นพื้นที่สำคัญในขับเคลื่อนเศรษฐกิจและวิถีชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน วัตถุประสงค์ 2) ประเภทผลิตภัณฑ์และขั้นตอนกระบวนการผลิต พบว่ากระบวนการผลิตของผลิตภัณฑ์ มีขั้นตอนการที่ซับซ้อนและภูมิปัญญาส่วนใหญ่ได้นำกล้วยหรือพืชผักผลไม้มาแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์ในชุมชนทำให้เกิดมูลค่า และสามารถสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ได้
ภาพที่ 14 ของดีของมอกล้วยไข่.jpg

บรรณานุกรม[แก้ไข]

ข่าวสดออนไลน์. (2562). เปิดตลาดริมทาง‘ตลาดมอกล้วยไข่’จ.กำแพงเพชร. เข้าถึงได้จาก https://www.khaosod.co.th/economics/news_2202846
คมสัน  เงินกระแชง. (2556). วิธีทำกล้วยอบเนย. เข้าถึงได้จาก https://bananath.wordpress.com/2013/ 08/29/วิธีทำกล้วยอบเนย-httpssites-google-comsitearoydeejanga-khnm-hwan/
ประพล  จิตคติ, การันต์  เจริญสุวรรณ, สุภาภรณ์  หมั่นหา และยุชิตา  กันหามิ่ง. (2558). กลยุทธ์การพัฒนาตลาดเกษตรมอกล้วยไข่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกำแพงเพชร, รายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการระดับชาติ 
   สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ครั้งที่ 2 (หน้า 235 - 249). กำแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
รักบ้านเกิด. (2556). การทำมัน-เผือกฉาบเค็มให้กรอบนาน. เข้าถึงได้จาก https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=6464&s=tblplant
อภัย  นามเพ็ง. (2560). กล้วยเบรกแตกทอดกรอบ. เข้าถึงได้จาก https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=9183&s=tblplant
Chandra. (2564). ฟักทองอบกรอบสีเหลืองสวยรสคเมนิดๆจากเกลือเพิ่มผงอบเชยเพิ่มกลิ่นหอม. เข้าถึงได้จาก https://voyagepvp.com/ฟักทองอบกรอบ-สีเหลืองสว/
Dot Property. (2560). วิธีทำไม้กวาดใช้เองพร้อมขั้นตอนแบบละเอียด. เข้าถึงได้จาก https://www.dotproperty.co.th/blog/วิธีทำไม้กวาด-ใช้เอง-พร้อมขั้นตอน
KHANKRADI. (2563). เผือกเส้นทอดกรอบ. เข้าถึงได้จาก https://khankradi.blogspot.com/2020/01/blog-post_186.html
Monkeytan. (2562). สูตรทำมันม่วงฉาบแสน็คกินเพลินทำกินระหว่างวัน. เข้าถึงได้จาก https://food.mthai.com/dessert/143820.html
Peeranat. (2563). รวมสูตรวิธีทำกล้วยตากอร่อยและคลีน. เข้าถึงได้จาก https://peeranatssr.wixsite.com/site/post/dried-banana