ฐานข้อมูล เรื่อง นครไตรตรึงษ์ เมืองโบราณ ต้นกำเนิดอาณาจักรอยุธยา

จาก KPPStudies
ไบยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

ข้อมูลทั่วไป[แก้ไข]

ชื่อแหล่งโบราณสถาน[แก้ไข]

         1. วัดเจดีย์เจ็ดยอด
         2. วัดดงอ้อย
         3. วัดริมทาง
         4. วัดดงมัน
         5. วัดพระปรางค์

ชื่อเรียกอื่นๆ[แก้ไข]

         ไม่มี

ที่ตั้ง (ที่อยู่)[แก้ไข]

         เมืองไตรตรึงษ์ ตั้งอยู่บ้านวังพระธาตุ ตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร โดยมีพื้นที่ติดต่อ ดังต่อไปนี้
             • ด้านทิศเหนือ       ติดต่อกับแม่น้ำปิง
             • ด้านทิศใต้           ติดต่อกับบ้านมอวังพระธาตุ และถนนพหลโยธิน
             • ด้านทิศตะวันออก  ติดต่อกับวัดวังพระธาตุและแม่น้ำปิง
             • ด้านทิศตะวันตก    ติดต่อกับบ้านท่าเสากระโดงและแม่น้ำปิง

ที่ตั้งพิกัดทางภูมิศาสตร์[แก้ไข]

         ละติจูดที่ 16 องศา 22 ลิปดา 31.55 พิลิปดาเหนือ  ลองจิจูดที่  99 องศา 33 ลิปดา 25.88 พิลิปดาตะวันออก

สภาพธรณีวิทยา[แก้ไข]

         เมืองไตรตรึงษ์ ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำปิง ซึ่งมีลักษณะทางธรณีสัณฐานแบบราบลุ่มแม่น้ำปิงตอนล่าง คือ ตะพักลุ่มน้ำ (ALLUVIAL TERRACE) โดยลักษณะธรณีสัณฐานเช่นนี้ พบในบริเวณทางด้านทิศตะวันออกและใต้ของจังหวัดกำแพงเพชรส่วนลักษณะทางธรณีวิทยาพบว่าเป็นตะกอนธารน้ำพา (Qa) ประกอบไปด้วย กรวด ทราย ทรายแป้ง และดินเหนียวสะสมตัวตามร่องน้ำ คันดินแม่น้ำและแอ่งน้ำท่วมถึง

หน่วยงานที่ดูแลรักษา[แก้ไข]

         • กรมศิลปากรที่ 6 สุโขทัย
         • ราชพัสดุ ขึ้นทางกรมธนารักษ์
         • อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 2507

สถานะการขึ้นทะเบียน[แก้ไข]

         เมืองไตรตรึงษ์จึงได้การประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 75 ตอนที่ 45 วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2501 ปัจจุบันภายในเมืองไตรตรึงษ์พบโบราณสถานแล้วจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ 
             1. โบราณสถานวัดดงอ้อย	         ละติจูด 16°22'34.7"	 ลองจิจูด 99°33'37.5"
             2. โบราณสถานวัดเจดีย์เจ็ดยอด	 ละติจูด 16°22'35.7"	 ลองจิจูด 99°33'34.0"
             3. โบราณสถานวัดริมทาง	         ละติจูด 16°22'36.5"	 ลองจิจูด 99°33'29.8"
             4. โบราณสถานวัดดงมัน	         ละติจูด 16°22'37.8"	 ลองจิจูด 99°33'28.1"
             5. โบราณสถานวัดพระปรางค์	 ละติจูด 16°22'35.6"	 ลองจิจูด 99°33'24.1"

ข้อมูลทางโบราณคดี[แก้ไข]

ประวัติ /ความเป็นมา/ คำบอกเล่า /ตำนาน[แก้ไข]

         จากการศึกษาจากหลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบจากแหล่งโบราณคดีที่พบในบริเวณลุ่มแม่น้ำปิงตอนล่าง อาทิ แหล่งโบราณคดีเขากะล่อน อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร แหล่งโบราณคดีมอเสือตบ อำเภอ  โกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร ที่แสดงถึงพัฒนาการทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชุมชนโบราณลุ่มแม่น้ำปิงตอนล่าง มีมาตั้งแต่ช่วงก่อนช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 หรือช่วงสมัยสุโขทัยนั่นเอง
         เมืองไตรตรึงษ์เป็นอีกหนึ่งชุมชนโบราณที่มีการตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณริมแม่น้ำปิงตอนล่าง ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณบริเวณภาคกลางในวัฒนธรรมทวารวดี คือ ตั้งถิ่นฐานใกล้แหล่งน้ำ และมีคูน้ำและคันดินล้อมรอบ 1-3 ชั้น ผังเมืองจะมีรูปร่างแตกต่างกันไป แต่มักจะขนานกับทางน้ำ 
         เมื่อพิจารณาร่วมกับหลักฐานทางด้านเอกสารประวัติศาสตร์ อย่างตำนานจามเทวีที่กล่าวถึงช่วงพุทธศตวรรษที่ 13 พระนางจามเทวี กษัตริย์แห่งเมืองละโว้ได้อพยพผู้คนจากเมืองละโว้ ขึ้นมาเมืองหริภุญชัย โดยใช้เส้นทางแม่น้ำปิง เป็นเส้นทางคมนาคมหลัก ซึ่งสอดคล้องกับหลักฐานประเภทโบราณวัตถุที่พบมีความคล้ายคลึงกันกับโบราณวัตถุที่พบในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ ตะเกียงดินเผา ลูกปัดแก้ว หรือ ลูกปัดหินเป็นต้น 
         ดังนั้นการตั้งถิ่นฐานของเมืองไตรตรึงษ์เกิดขึ้นจากปัจจัยสำคัญคือ ปัจจัยทางด้านภูมิศาสตร์ เมืองไตรตรึงษ์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง แหล่งน้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่อุปโภคและบริโภค และทำให้เกิดการใช้เส้นทางน้ำเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในการติดต่อและแลกเปลี่ยนสินค้ากับชุมชนภายนอก โดยเฉพาะชุมชนในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแผนที่ตำแหน่งเมืองไตรตรึงษ์ที่แสดงให้เห็นว่า หากเดินทางขึ้นทางทิศเหนือจะก็จะพบเมืองกำแพงเพชร เมืองนครชุมได้ หากเดินทางลงทางใต้ก็จะเจอเมืองดงแม่นางเมือง และสามารถลงไปถึงเมืองอื่นๆในบริเวณภาคกลางได้ด้วย 
         จากการศึกษาและวิเคราะห์หลักฐานทางโบราณคดีที่พบบริเวณเมืองไตรตรึงษ์ในช่วงเวลาที่ผ่านชี้ให้เห็นว่าเมืองไตรตรึงษ์เป็นชุมชนที่มีการอยู่อาศัยใน ๓ สมัยหลักๆ ได้แก่ สมัยก่อนสุโขทัย สมัยสุโขทัย และสมัยอยุธยา ส่วนในสมัยรัตนโกสินทร์นั้นเมืองไตรตรึงษ์ได้กลายเป็นเมืองร้าง 
         สมัยก่อนสุโขทัย  
             เมืองไตรตรึงษ์เป็นอีกชุมชนโบราณที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย โดยเอกสารประเภทตำนานและพงศาวดาร อาทิ พงศาวดารโยนก ตำนานสิงหนวัติกุมาร ตำนานท้าวแสนปม ได้กล่าวถึงเมืองไตรตรึงษ์ในฐานะเมืองที่ถูกสร้างขึ้นมาใกล้กับเมืองกำแพงเพชรทางด้านทิศใต้ นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงโดยทางอ้อมของการมีอยู่และการตั้งถิ่นฐานของชุมชนริมแม่น้ำปิงอย่างตำนานจามเทวี รวมทั้งยังมีข้อมูลที่ได้จากการดำเนินขุดค้นในบริเวณเมืองไตรตรึงษ์ ซึ่งพบชิ้นส่วนภาชนะดินเผาภาชนะดินเผาก้นกลม และตะเกียงดินเผาแบบโรมัน ที่คล้ายคลึงกับที่พบที่ชุมชนโบราณบ้านคูเมือง อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี นอกจากนี้ยังพบ ลูกปัดหินและลูกปัดแก้วสีเหลือง ส้ม เขียว ฟ้า น้ำเงิน ดำ และสีน้ำตาลแดง แวดินเผาที่มีลักษณะคล้ายกับที่เมืองจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งสามารถเทียบเคียงอายุสมัย จากโบราณวัตถุที่มีลักษณะร่วมกันว่าอยู่ในช่วงของวัฒนธรรมทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๖)
             จากหลักฐานที่กล่าวมาแสดงให้เห็นว่า เมืองไตรตรึงษ์มีการอยู่อาศัยตั้งแต่ช่วงสมัยก่อนสุโขทัย โดยสันนิษฐานว่ามีการเข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่สมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-16) นั่นเอง
ภาพที่ 5.jpg

ภาพที่ 1 ตะเกียงดินเผาที่พบในเมืองไตรตรึงษ์ ปัจจุุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กำแพงเพชร

         สมัยสุโขทัย
             เมืองไตรตรึงษ์ปรากฏร่องรอยของการได้รับอิทธิพลของรูปแบบของลักษณะสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม ที่เป็นลักษณะเด่นของศิลปะสมัยสุโขทัย ได้แก่ วัดเจดีย์เจ็ดยอดและวัดวังพระธาตุ ที่มีเจดีย์ประธานทรงดอกบัวตูมหรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ นอกจากนี้ผลจากการดำเนินงานขุดค้นทางโบราณคดีที่ผ่านมา พบชิ้นส่วนภาชนะดินเผาที่มีแหล่งผลิตจากสุโขทัย อาทิ เศษภาชนะดินเผาเครื่องสังคโลกแบบเชลียงเคลือบสีเขียวเฉพาะด้านในผลิตจากแหล่งเตาบ้านเกาะน้อย ราวพุทธศตวรรษที่ 19-20
2-3.jpg

ภาพที่ 2 - 3 เจดีย์วัดวังพระธาตุ และเศียรพระพุทธรูป วัดวังพระธาตุ ถ่ายในปี พ.ศ.2558

         สมัยอยุธยา
             ชื่อเมืองไตรตรึงษ์ปรากฏในเอกสารทางประวัติศาสตร์ ศิลาหลักที่ 38 หรือจารึกกฎหมายลักษณะโจร (เลขทะเบียน สท.17) ซึ่งเป็นกฎหมายอาญาในยุคแรกเริ่มที่อาณาจักรอยุธยาตราขึ้นบังคับใช้ในสุโขทัย เชลียง กำแพงเพชร ทุ่งยั้ง ปากยม และเมืองสองแคว ในปีช่วง พ.ศ.1940  ซึ่งตรงกับสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 2 พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัย

โดยข้อความในจารึกได้ปรากฏชื่อเมืองไตรตรึงษ์ใน ด้านที่ 1 ในบรรทัดที่ 9 มีข้อความว่า

คำจารึก คำอ่าน
“..เจ๋าเมืองตรายตริง (ษกบั) ดวยนกกปราชราชกวี “..เจ้าเมืองไตรตรึง (ส์กับ) ด้วยนักปราชญ์ราชกวี
(มีสกุลพ) รรณนงัลงถวายอัญชูลี (พบา (มีสกุลพ) รรณ นั่งลงถวายอัญชุลี (พระบาท)
เสดจในตรีมุขเสวิยบุญสุกตงักฤตย เสด็จในตรีมุขเสวยบุญสุข ตั้งกฤตย์
แลวบเหิงกลายทานเสดจ…ดวยบุรีฝูงพาลแ…” แล้วบเหิงกลาย ท่านเสด็จ…ด้วยบุรีฝูงพาล แ-”
             จากข้อความกล่าวว่าแสดงให้เห็นสถานะความเป็นชุมชนเมืองในโดยมีเจ้าเมืองไตรตรึงษ์เป็นผู้ปกครอง และยังเป็นคณะประชุม การตรากฎหมายดังกล่าวด้วย
         สมัยรัตนโกสินทร์ 
             ในช่วงสมัยนี้บริเวณเมืองไตรตรึงษ์ลดบทบาทลงอย่างชัดเจน กลายเป็นเมืองที่ถูกทิ้งร้าง เมืองไตรตรึงษ์ได้ถูกกล่าวในพระราชนิพนธ์ จากการเสด็จประพาสของกษัตริย์ 2 พระองค์ ได้แก่
             1. การเสด็จประพาสเมืองเหนือในรัชกาลที่ 4
             สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ได้บันทึกกล่าวถึงรัชกาลที่๔เมื่อครั้งยังทรงผนวชได้เสด็จประพาสเมืองเหนือได้เสด็จประทับที่เมืองไตรตรึงษ์โดยได้นมัสการพระธาตุตาลเอน จากบันทึกดังกล่าวทำให้ทราบว่า โบราณสถานในบริเวณเขตเมืองโบราณไตรตรึงษ์มีวัดเก่าอยู่หลายแห่งแต่ที่เป็นเจดีย์ใหญ่พอจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุได้นั้นน่าจะเป็น เจดีย์วัดวังพระธาตุนั้นเอง 
             2. การเสด็จประพาสต้นหรือการเสด็จประพาสเมืองเหนือของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5  (ปี ร.ศ.125 หรือ พ.ศ.2449) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นการเสด็จประพาสต้นครั้งที่ 2 โดยเสด็จประพาสต้นถึงเมืองกำแพงเพชร ระหว่างวันที่ 22-26 สิงหาคม พ.ศ.2449 และเสด็จถึงเมืองไตรตรึงษ์ในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2449 ซึ่งทรงบันทึกภาพถ่ายและทรงมีพระราชนิพนธ์เล่าเรื่องไว้ โดยข้อมูลจากพระราชนิพนธ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ในช่วงเวลานั้นเมืองไตรตรึงษ์ได้กลายเป็นพื้นที่รกร้าง เต็มไปด้วยหญ้าสูง ไม่มีการเข้ามาอยู่อาศัยของผู้คน และได้ปรากฏโบราณสถาน ใน 3 พื้นที่ คือ วัดวังพระธาตุ แนวกำแพงดิน-คูเมืองไตรตรึงษ์ และบริเวณภายในเมืองไตรตรึงษ์
ภาพที่ 9.jpg

ภาพที่ 4 ภาพถ่ายพระเจดีย์วังพระธาตุ

ภาพที่ 10.jpg

ภาพที่ 5 บริเวณฝั่งคูเมืองด้านนอก เมืองไตรตรึงษ์

ภาพที่ 11.jpg

ภาพที่ 6 ภาพถ่ายหมู่เจดีย์เจ็ดยอดในเมืองไตรตรึงษ์

             นอกจากนี้ มีการสำรวจที่ได้แสดงให้เห็นว่าเมืองไตรตรึงษ์ยังคงเป็นเมืองร้าง โดยในช่วงปี พ.ศ.2496 นายธนิต อยู่โพธิ์ ได้รับการแต่งตั้งร่วมเป็นอนุกรรมการรวบรวมประวัติศาสตร์สุโขทัย โดยมีพระยาอนุมานราชธน เป็นประธานคณะอนุกรรมการและคณะกรรมการได้เข้าไปสำรวจโบราณสถานในจังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชรและนครสวรรค์ โดยในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2496 ได้เข้าไปดูเมืองไตรตรึงษ์ ปรากฏว่าสภาพโบราณสถานตามภาพถ่ายจากการเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ 5 ได้ทรุดโทรมลงไปมาก 
7-8.jpg

ภาพที่ 7 - 8 ภาพถ่ายพระเจดีย์ ในวัดวังพระธาตุ และภาพลายเส้น พระเจดีย์ในป่าทึบ ในปี พ.ศ.2496

             และยังมีการกล่าวถึงสภาพของเมืองไตรตรึงษ์จากการสำรวจในช่วงปี พ.ศ.2500 ของมานิต วัลลิโภดม ที่สำรวจภายในบริเวณกำแพงเมือง
ภาพที่ 13.jpg

ภาพที่ 9 แผนผังเมืองไตรตรึงษ์ปี พ.ศ.2501

         สภาพปัจจุบัน
             ปัจจุบัน เมืองไตรตรึงษ์เป็นโบราณสถานสำคัญอีกแห่งของจังหวัดกำแพงเพชร โดยพื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในการทำเกษตรกรรม โดยเฉพาะการปลูกมันสำปะหลัง เมื่อพิจารณาจากภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงปี พ.ศ.๒๕๕๐-๒๕๕๘ แสดงให้เห็นว่ามีการทำเกษตรกรรมกันอย่างต่อเนื่อง

ลักษณะสิ่งปลูกสร้าง[แก้ไข]

         เป็นสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้าง ประกอบไปด้วย กำแพงคูเมือง โบราณสถาน

ลักษณะทางสถาปัตยกรรม[แก้ไข]

         สถาปัตยกรรม ประกอบไปด้วย กำแพงคูเมือง โบราณสถานต่างๆ
             - วัดเจดีย์เจ็ดยอดเป็นสถาปัตยกรรมในสมัยสุโขทัย รูปทรงของเจดีย์ประกอบด้วย ฐานหน้ากระดานสี่เหลี่ยมซ้อนกัน 4ชั้น ถัดขึ้นไปเป็นฐานบัวลูกแก้วอกไก่ จากนั้นเป็นชั้นแว่นฟ้าย่อเหลี่ยมไม้ 22 ชั้น เรือนธาตุย่อเหลี่ยมไม้ 20 แล้วจึงเป็นส่วนที่เรียกว่าดอกบัวตูมและส่วนยอดถัดขึ้นไป
    	      - วัดพระปรางค์เปรียบเทียบสถาปัตยกรรม เจดีย์มีรูปทรงเพรียวและชะลูดมากกว่าที่เมืองสุโขทัยองค์ระฆังเล็ก และอยู่ในตำแหน่งสูงปากระฆังไม่บานหรือผายออกมาก นิยมทำฐานหน้ากระดานแปดเหลี่ยมและฐานบัวลูกแก้วอกไก่แปดเหลี่ยมรองรับ ส่วนยอดเจดีย์ฐานล่างสุดมักเป็นฐานหน้ากระดานสี่เหลี่ยมหรือฐานเขียง ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้ากระดานแปดเหลี่ยมและฐานบัวลูกแก้วอกไก่แปดเหลี่ยม ซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป จากนั้นเป็นมาลัยเถาที่ทำเป็นชุดบัวถลาสามชั้น เรียงลดหลั่นกันรองรับองค์ระฆัง ส่วนล่างที่เรียกว่าปากระฆังประดับรูปกลีบบัวคว่ำและบัวหงายที่เรียกว่าบัวปากระฆังได้รับอิทธิพลจากศิลปะพม่า ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังก์ทำเป็นแท่นฐานทรงสี่เหลี่ยมรูปแบบเป็นฐานบัวลูกแก้วอกไก่

ยุคทางโบราณคดี[แก้ไข]

         • ยุคสมัยก่อนสุโขทัย 
         • ยุคสมัยสุโขทัย
         • ยุคสมัยอยุธยา
         • ยุคสมัยรัตนโกสินทร์ 

สมัย/วัฒนธรรม[แก้ไข]

         • สมัยก่อนสุโขทัย วัฒนธรรมทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-16) 100-1001
         • สมัยสุโขทัย  
         • สมัยอยุธยา
         • สมัยรัตนโกสินทร์ 

อายุทางโบราณคดี[แก้ไข]

         • สมัยก่อนสุโขทัย (พุทธศตวรรษที่ 11 – 16) 1561 ปี
         • สมัยสุโขทัย (พุทธศตวรรษที่ 19 – 20) 761 ปี
         • สมัยอยุธยา (พุทธศตวรรษที่ 20 – 21) 661 ปี
         • สมัยรัตนโกสินทร์

อายุทางวิทยาศาสตร์[แก้ไข]

         - ยังไม่ได้มีการดำเนินการวิทยาศาสตร์

อายุทางตำนาน[แก้ไข]

         • สมัยก่อนสุโขทัย 
         • สมัยสุโขทัย
         • สมัยอยุธยา
         • สมัยรัตนโกสินทร์

ข้อมูลการสำรวจ=[แก้ไข]

วัน /เดือน/ ปี/ ที่สำรวจ[แก้ไข]

         วันที่ 10, 20, 25 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2561 

วันปรับปรุงข้อมูล[แก้ไข]

         -

ผู้สำรวจข้อมูล[แก้ไข]

         นางสาวพิมกาญดา  จันดาหัวดง

คำสำคัญ (tag)[แก้ไข]

         นครไตรตรึงษ์, วัดวังพระธาตุ, ท้าวแสนปม

===ผู้ให้ข้อมูล (ชื่อ นามสกุล) /เบอร์โทรศัพท์===

         นาย ภาคภูมิ  อยู่พูล นักโบราณคดี อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร โทร. 0814741895