ฐานข้อมูล เรื่อง หัตถกรรมเป่าแก้วบ้านโนนจั่น ตำบลทุ่งทราย
ไบยังการนำทาง
ไปยังการค้นหา
เนื้อหา
ข้อมูลทั่วไป[แก้ไข]
ชื่อเรียก[แก้ไข]
หัตถกรรมเป่าแก้วบ้านโนนจั่น
ชื่อเรียกอื่น ๆ[แก้ไข]
เป่าแก้ว
คำอธิบาย[แก้ไข]
เริ่มจากนายณรงค์ แสงอโน ราษฎรบ้านโนนจั่นได้ไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร โดยได้ศึกษาหนังสือเกี่ยวกับวิธีการเป่าแก้วที่ได้มาจากญาติ ที่ทำงานอยู่สถาบันวิจัยแห่งชาติ จากนั้นก็ได้ทำการทดลองทำ ดัดแปลงเป่าเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ จนเริ่มมีความชำนาญ จึงได้เปิดร้านเพื่อผลิตและจำหน่ายอยู่ที่กรุงเทพมหานคร แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่าไร ต่อมาเมื่อสมรสจึงกลับมาอยู่บ้านแล้วชักชวนชาวบ้านมาฝึกโดยไม่คิดค่าฝึกสอน แต่ประการใด จากนั้นก็ได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานต่าง ๆ และทางกลุ่มจดทะเบียนเมื่อ ปี 2541
สถานที่[แก้ไข]
กลุ่มหัตถกรรมเป่าแก้วบ้านโนนจั่น 32 บ้านโนนจั่น หมู่ 1 ตำบลทุ่งทอง อำเภอทรายทองวัฒนา จังหวัดกำแพงเพชร 62190 ติดต่อ คุณณรงค์ แสงอโน โทร : 081-3613591, 055-732203 อีเมล : glassman_50@hotmail.com
วัสดุผลิตภัณฑ์[แก้ไข]
1. แก้วโบโรซิลิเคต (แก้วทนไฟ) ขนาด 1-35 มิลลิลิตร (ขึ้นอยู่กับขนาดของงาน) 2. ก๊าซออกซิเจน 3. ก๊าซหุงต้ม 4. ทรายละเอียด 5. น้ำทอง22k 6. สีทาแก้ว 7. แว่นตาสำหรับเป่าแก้ว
ภาพที่ 1 แก้ว และ หัวเป่าแก้ว
ประเภทการใช้งาน[แก้ไข]
ของใช้ ของประดับตกแต่งและของที่ระลึก
กระบวนการผลิต/ขั้นตอนการใช้งาน[แก้ไข]
ขั้นตอนกระบวนการผลิต 1. ขั้นเตรียมการ (1) เตรียมแท่งแก้ว (2) จุดไฟ และเร่งความแรงของไฟให้ได้ประมาณ 1,200 องศา (3) ใส่แว่นตาเพื่อป้องกันแสงจากไฟ 2. ขั้นการผลิต (1) นำแก้วมาเป่าขึ้นรูปด้วยไฟ อุณหภูมิ 1,200 องศาเซลเซียส
ภาพที่ 2 การขึ้นรูปม้าน้ำ
(2) เก็บรายละเอียดด้วยความพิถีพิถัน หากต้องการทำเป็นรูปสัตว์ ให้นำแก้วจี้ไฟ ให้เกิดความร้อนแล้วขึ้นรูปจากหาง ไปยังขา ลำตัว และหัว (แล้วแต่ความถนัดของช่าง)
ภาพที่ 3 การเก็บรายละเอียดส่วนหัวของกุ้ง
(3) เก็บรายละเอียด เช่น เล็บ หนวด ให้ใช้เครื่องมือที่มีลักษณะกลมมีขอบวงแหวน เช่น น๊อต แล้วนำมาแต่งเป็นรูปขนโดนนำไปแตะที่ตัวแก้วแล้วหมุนไปมา เป็นเหมือนขนสัตว์ เป็นต้น (4) การตั้งรูปแก้วที่เป็นรูปต่าง ๆ กับพื้นเพื่อการทรงตัวที่มั่นคง ให้นำแก้วที่ทำเสร็จแล้วและยังมีความร้อนคงอยู่แตะกับพื้นผิวเรียบที่เป็นคาร์บอนเบา ๆ
ภาพที่ 4 ฐานตั้งสำหรับม้าน้ำ
3. ขั้นหลังการผลิต นำแก้วที่ผลิตเสร็จแล้วไปเป่าด้วยแก๊สออกซิเจน เพื่อไม่ให้แก้วเปราะและแตกง่าย การตกแต่งลักษณะพิเศษ การเป่าแก้วแรกเริ่มนั้นมีการจัดทำแบบธรรมดาที่เรียกว่า แก้วใส กล่าวคือ เมื่อนำแก้วแท่ง มาเป่าขึ้นเป็นรูปสัตว์หรือรูปทรงตามต้องการแล้วถือว่าเสร็จสิ้นกระบวนการเป่าขึ้นรูป สามารถบรรจุหีบห่อ เพื่อจำหน่ายได้ ในปัจจุบัน ได้มีการเพิ่มเทคนิคในการจัดทำซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สามารถดำเนินการได้ใน 2 รูปแบบ คือ 1. การพ่นทราย โดยใช้เครื่องปั้มลมพ่นทรายละเอียด ออกไปบริเวณที่ต้องการ เช่น ที่หาง หนวด ขา หรือลำตัว เป็นต้น การพ่นทรายจะทำให้แก้วที่มีลักษณะใส มีสีขาวขุ่นเกาะบริเวณที่พ่น เมื่อสังเกตให้ดีจะเห็นเป็นรูปเล็ก ๆ ที่เกิดจากการที่ทรายถูกอัดแล้วฉีดไปแรง ๆ กระทบกับวัตถุหรือแก้วตรงบริเวณที่ต้องการนั่นเอง 2. การลงสีเคลือบทอง การลงสีนี้อาจจะผ่านขั้นตอนการพ่นทรายหรือไม่ก็ได้ โดยนำสีทองมาทาลงในส่วนที่ต้องการ แล้วนำไปอบในเตาอบ ด้วยอุณหภูมิ 650 C เป็นระยะเวลา 3-4 ชั่วโมง
ภาพที่ 5 การเป่าแก้วรูปแบบธรรมดาที่เรียกว่า แก้วใส
ภาพที่ 6 การเป่าแก้วรูปแบบลงสีเคลือบทอง
ข้อมูลการสำรวจ[แก้ไข]
วันเดือนปีที่สำรวจ[แก้ไข]
29 มีนาคม 2562
วันปรับปรุงข้อมูล[แก้ไข]
-
ผู้สำรวจข้อมูล[แก้ไข]
น.ส.สุวลัย อินทรรัตน์
คำสำคัญ (tag)[แก้ไข]
เป่าแก้ว, หัตถกรรมเป่าแก้ว, บ้านโนนจั่น