ต้นทับทิมกับฮวงจุ้ยแบบไทยๆ

จาก KPPStudies
ไบยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

บทนำ[แก้ไข]

         ความเชื่อ คือ สิ่งที่หยั่งรากลึกลงไปในวิถีชีวิต ความคิด และการกระทำของคนรุ่นสู่รุ่น ความเชื่อในประเทศไทยมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งความเชื่อในตัวบุคคล ความเชื่อในความคิดของช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น ความเชื่อเรื่องจาตุคามรามเทพ ความเชื่อในพรรคการเมือง ความเชื่อในศาสนา ความเชื่อในสิ่งที่เรามองไม่เห็น อาทิ ความเชื่อเรื่องผี เทวดา รวมไปถึงความเชื่อในเรื่องศาสตร์หรือพิธีกรรมต่าง ๆ อาทิ ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ทิศการวางพระ รวมไปถึงสิ่งอื่น ๆ เมื่อเรียกรวม ๆ กันแล้ว คนจีนจะเรียกสิ่งนี้ว่าฮวงจุ้ย หรือ ศาสตร์ในการกำหนดที่ตั้งให้เหมาะสม และเป็นมงคลสำหรับสร้างสุสาน บ้าน เมือง เป็นต้น โดยมีองค์ประกอบธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ภูเขา ต้นไม้ เข้ามาเกี่ยว
         ประเทศไทยก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ความเชื่อแทรกซึมเข้ามาอยู่ทุกช่วงของชีวิตตั้งแต่เกิด บวช แต่งงาน หรือเสียชีวิต พิธีกรรมต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อ สิ่งที่ทำได้ สิ่งที่ทำไม่ได้ ถ้าทำแล้วจะเป็นแบบนั้น แบบนี้ เช่นเดียวกับการปลูกต้นทับทิมในบริเวณบ้าน ก็เป็นความเชื่อของคนไทย

คำสำคัญ: ต้นทับทิม, ความเชื่อ, ฮวงจุ้ยแบบไทยๆ

ความหมายของความเชื่อ[แก้ไข]

         ภิญโญ จิตต์ธรรม (2522) ได้กล่าวถึงความเชื่อสรุปได้ว่า ความเชื่อ คือ สิ่งที่ไม่ให้ถูกลงโทษ และเพื่อให้อำนาจสิ่งลึกรับนั้นพึงพอใจ ต่อมาจึงได้มีพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อบูชาเพียงพอที่จะนำมาใช้พิสูจน์ให้เห็นจริงเกี่ยวกับสิ่งนั้นก็ได้ มนุษย์ค่อย ๆ เรียนรู้ ทำความเข้าใจโลกมาเป็นหลายพันปี และเชื่อว่ามีอำนาจลึกลับสามารถบันดาลให้มนุษย์ได้รับผลดีและผลร้าย เมื่อมนุษย์กลัวอำนาจสิ่งลึกลับนั้นก็จะกระทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ถูกลงโทษ และเพื่อให้อำนาจสิ่งลึกลับนั้นพึงพอใจ ต่อมาจึงได้มีพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อบูชาเซ่นสรวง เพราะเชื่อสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นต้องมีผู้บันดาลให้เป็น สมปราชญ์ อัมมะพันธ์ (2536) ได้กล่าวถึงความหมายของความเชื่อไว้ในหนังสือประเพณีและพิธีกรรมในวรรณคดีไทยไว้หลายประการ ดังนี้ "ความเชื่อ คือ การยอมรับข้อเสนอข้อใดข้อหนึ่งไว้ว่าเป็นจริง การยอมรับเช่นนี้โดยสาระสำคัญแล้วเป็นการรับเชิงพุทธิปัญญา แม้ว่าจะมีอารมณ์สะเทือนใจเข้ามาประกอบร่วมด้วย ความเชื่อจะก่อให้เกิดภาวะทางจิตขึ้นในบุคคลซึ่งอาจเป็นพื้นฐานสำหรับการกระทำโดยสมัครใจของบุคคลนั้น" “ความเชื่อ คือ คำตอบสิ่งลึกลับที่เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของตนโดยให้พื้นฐานการศรัทธาและอารมณ์มากกว่าที่จะเป็นเหตุผล หรือวิทยาศาสตร์" จันทร์ศรี นิตยฤกษ์ (2523) ได้กล่าวถึง ความเชื่อในหนังสือความรู้เรื่องคติชนวิทยาว่า เชื่อ ความหมายว่า เห็นจริงด้วย นับถือ มั่นใจ อาจจะด้วยความรู้สึกหรือการไตร่ตรองด้วยเหตุผลก็ตาม เมื่อเกิดความเชื่อแล้วก็มักมีการแสดงออกทางการ คือ การปฏิบัติและทางวาจา เช่น ตักเตือน สั่งสอน หรือให้ผู้อื่นทราบ ความเชื่อของบุคคลกลุ่มใดย่อมมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับประเพณี สุภาษิต คำพังเพย ตลอดจนคติชนแขนงอื่น ๆ เป็นต้น ความเชื่อจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนดการแสดงออกของคนในสังคม กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ความเชื่อเป็นตัวกำหนดคติชนแขนงอื่น ๆ ในสังคมนั้น ๆ ทั้งนี้เพราะเมื่อคนในสังคมมีความเชื่อเรื่องใดย่อมประพฤติปฏิบัติหรือแสดงออกด้วยประเพณี พิธีกรรม และอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับความเชื่อนั้น ๆ นอกจากนั้น มารยาท กิจสุวรรณ (2526) ได้กล่าวถึง ความเชื่อของชนชาติไทยไว้ในวารสารวัฒนธรรมไทย ดังนี้ ความเชื่อของชนชาติไทยแต่งดั้งเดิมก็เหมือนกับชนชาติอื่นในสมัยโบราณ คือเชื่อในสิ่งที่ไม่เห็นตัวตน โดยเข้าใจว่า มีฤทธิ์อำนาจอยู่เหนือคนอาจบันดาลให้ดีหรือร้ายแก่คนได้ ความเชื่ออันนี้คือ ความเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ (Super Nature) ที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยวิธีทาง วิทยาศาสตร์ใด ๆ แต่ความเชื่อเช่นนี้ก็มีอิทธิพลเหนือความคิด และการกระทำของคนไม่ว่าจะเป็น ยุคใด ๆ แต่ความเชื่อเหนือสิ่งธรรมชาติบางชนิดก็อาจจะจัดอยู่ในรูปของศาสนาดั้งเดิม (Primitive Religion) ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นสิ่งใหม่ ๆ 
         ดังนั้นจึงสามารสรุปได้ว่าความเชื่อ คือ การยอมรับนับถือหรือยึดมั่น ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมาอธิบาย การยอมรับนั้นอาจยอมรับด้วยความศรัทธา ด้วยความจงรักภักดีแฝงไว้ด้วยความกลัวหรือรับสืบเนื่องกันมาและปฏิบัติตามจนกลายเป็นประเพณีและวัฒนธรรมในปัจจุบัน

ความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ของคนไทยสมัยโบราณ[แก้ไข]

         ความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้นั้น สืบเนื่องมาจากในสมัยโบราณ คนไทยมักจะชอบบ้านที่มีบริเวณกว้างขวาง แล้วมักจะมีพฤติกรรมรักในการปลูกต้นไม้นานาชนิดไว้รอบบ้าน การปลูกต้นไม้แต่ละต้นจึงมักจะคำนึงถึงทิศทางทั้งแสงแดด ลม และการใช้ประโยชน์ในการปลูกต้นไม้แต่ละชนิด รวมไปถึงการปลูกไม้มงคลภายในบริเวณบ้านด้วย ไม้มงคลที่ควรปลูก อาทิ 
         - ต้นกล้วย กล้วยเป็นไม้ที่ปลูกง่ายและมีประโยชน์มาก ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ลำต้น ใบ หัวปลี และผล โดยคนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า การปลูกกล้วยไว้ในบ้านนั้น ไม่ว่าจะคิดสิ่งใดหรือกระทำสิ่งใดก็ง่าย สำเร็จได้โดยง่าย ต้นกล้วยควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบ้านเสมอ 
         - ต้นคูน หรือต้นราชพฤกษ์ คนไทยเชื่อกันว่าหากปลูกไว้ในบ้านจะร่ำรวย ทรัพย์สินเงินทองจะทวีคูณยิ่ง ๆ ขึ้นไป เมื่อกล่าวถึงทิศการปลูกต้นคูณนั้นโบราณกล่าวว่าต้นคูณควรปลูกไว้ทางทิศใต้
         - ต้นมะพร้าว หรือ ต้นไผ่สีสุข โบราณกล่าวไว้ว่าควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออก ซึ่งมีความเชื่อว่าจะทำให้คนในบ้านหรือคนในครอบครัวปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ
         - ต้นโป๊ยเซียน ปลูกแล้วจะทำให้ร่ำรวย ให้โชคลาภเจริญรุ่งเรือง ทิศที่เหมาะกับการปลูก คือ ทิศตะวันออก เฉียงเหนือ
         - ต้นจำปี ใครปลูกไว้ในบ้าน จะทำให้เกิดความสบายอกสบายใจ ไม่มีเรื่องกังวลใจ ต้นจำปี โบราณกล่าวไว้ว่า ควรปลูกในทิศตะวันตก
         - ต้นมะม่วง ปลูกมะม่วงไว้ทางทิศใต้จะช่วยป้องกันคนอื่นมารังแก
         - ต้นฝรั่ง ป้องกันคาถาอาคม เวทมนต์ หรือ คุณไสย ต่าง ๆ บางท้องถิ่นเชื่อกันว่า ต้นฝรั่ง สามารถป้องกันภูตผีปีศาลได้ด้วย ควรปลูกทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
         - ต้นขนุน โบราณเชื่อว่า ปลูกไว้ในบ้านจะมีคนสรรเสริญ ป้องกันอันตรายและคนใส่ร้าย อีกทั้งมีผู้อุปการะอุดหนุนคอยให้ความช่วยเหลือ ทิศที่เหมาะสมคือ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
         - ต้นมะยม เชื่อกันว่า ปลูกแล้วจะได้รับความนิยมชมชอบ มีชื่อเสียง มีคนรักใคร่ มะยม ทิศทางที่ควรปลูก คือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน
         - ต้นมะขาม ควรปลูกไว้ทางทิศตะวันตก เพื่อป้องกันคดีความ ผีซ้ำด้ามพลอย และทำให้คนชื่นชอบ เป็นที่น่าเกรงขาม ส่วนพันธุ์ไม้ที่คนโบราณห้ามปลูกไว้ในบ้าน เนื่องจากจะนำความวุ่นวายมาสู่ครอบครัว ได้แก่ 
         - ต้นตะเคียน เชื่อกันว่ามีวิญญาณฯหญิงสาวมาสิงสู่ จะทำให้คนที่อยู่ในบ้านไม่เจริญ
         - ต้นไทร โบราณมีความเชื่อว่าไม่ควรปลูกต้นไทรไว้ในบ้านเพราะจะทำให้ครอบครัว เกิดความวุ่นวาย
         - ต้นยาง เป็นไม้ที่นิยมนำมาทำหีบศพ เชื่อว่าปลูกไว้ในบ้านแล้วจะทำให้คนในครอบครัวถูกอาเพศและตายได้
         - ต้นโศก ระกำ สั่นทม เป็นชื่อที่ไม่มีความมงคล จึงไม่นิยมให้ปลูกในบ้าน เชื่อว่าจะทำให้เกิดความอัปมงคลกับคนในบ้าน จะเกิดทุกข์เกิดเรื่องไม่ดีกับคนในครอบครัว
         - เฟื้องฟ้า เป็นไม้ที่มีหนามแหลมคม คนโบราณจึงไม่ให้ปลูกไว้ในบ้าน โดยเชื่อกันว่า ถ้าบ้านไหนมีลูกสาว ลูกสาวก็จะไร้คู่ เป็นต้น ปัจจุบันความเชื่อต่าง ๆ เหล่านี้ถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา เพราะมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
         สำหรับต้นทับทิมนั้น คนไทยมีความเชื่อว่า มีความเชื่อว่าต้นทับทิมนั้นเป็นอัญมณีแห่งผลไม้ คือชื่อเรียกขานผลทับทิมตามความเชื่อของคนโบราณโดยมีความเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความร่มรื่น และน่ายินดี โดยเฉพาะชาวจีนมักนิยมนำผลทับทิมให้เป็นของขวัญแก่คู่แต่งงานเพื่อเป็นการอวยพรให้มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง นอกจากนั้นแล้วยังมีความเชื่ออีกว่า ใบหรือกิ่งของต้นทับทิมให้คุณด้านการป้องกันภัยจากภูตผี เราจึงมักเห็นการใช้ใบหรือกิ่งทับทิมแช่น้ำล้างหน้า ล้างมือ พรมศีรษะหลังกลับจากการร่วมงานศพเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีที่ติดตามมา (Kaset Today, ม.ป.ป.)

ความเชื่อเกี่ยวกับต้นทับทิมในแต่ละประเทศ[แก้ไข]

         ประเทศจีน
         ประเทศจีนถือว่าต้นทับทิมเป็นไม้มงคล และเนื่องจากผลทับทิมมีเมล็ดมาก ชาวจีนจึงยกให้ทับทิมเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความมีลูกหลานมากมาย จึงนิยมให้ผลทับทิมเป็นของขวัญแก่บ่าวสาวในพิธีแต่งงานเพื่อให้มีลูกหลานมาก ๆ ในพิธีแต่งงานก็นิยมปักยอดทับทิมไว้ที่ผมบ่าวสาว และปักยอดทับทิมไว้ที่สิ่งของเซ่นไหว้เจ้า ชาวจีนยังเชื่อว่า ใบหรือกิ่งทับทิมมีอำนาจไล่ภูตผีปีศาจได้ จึงนิยมปลูกต้นทับทิมไว้ในบริเวณหน้าบ้าน และใช้ใบทับทิมแช่น้ำ ล้างหน้า ล้างมือ หลังกลับจากงานศพ เพื่อมิให้ปีศาจติดตามมา
         ประเทศญี่ปุ่น
         ประเทศญี่ปุ่นเชื่อว่าผลทับทิมเป็นเสมือนเจ้าแม่ที่คอยปกป้องรักษาเด็ก ๆ ให้ปลอดภัย และเชื่อว่า เมื่อเด็ก ๆ ได้รับประทานผลของทับทิมแล้วจะปลอดภัยจากภูติ ผี ปีศาจทั้งปวง ผลไม้ชนิดนี้จึงเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น อีกทั้งยังเชื่อว่า การรับประทานทับทิมจะช่วยทำให้ความจำดีขึ้น ช่วยป้องกันมะเร็งในผู้สูงอายุ โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ทับทิมยังเป็นผลไม้ชะลอความชราแล้วยังสามารถช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้าจากการทำงานได้ดีเนื่องจากในผลทับทิมมีสารที่เรียกว่า กรดซิตริก
         ประเทศกรีก
         ประเทศกรีกมีความเชื่อว่าต้นทับทิมเกิดจากโลหิตของไดโอนีซุส ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งเทพเจ้าทั้งปวงและเทวีนาน่า ซึ่งเป็นพรหมจารีย์ตั้งครรภ์ขึ้นโดยการสอดใส่ผลทับทิม และให้เกิดเทพเจ้าแอตติส ดังนั้นผู้ที่เคารพนับถือเทพแอตติสจึงไม่กินผลทับทิม ชาวยิวในสมัยพระเจ้าโซโลมอนก็ถือว่าทับทิมเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ ดังปรากฏอยู่บนยอดเสาของวิหารกษัตริย์โซโลมอน ชาวฮินดู ในอินเดียเชื่อว่า พระคเณศทรงโปรดทับทิม ผู้ที่เคารพพระคเณศจึงนิยมนำผลทับทิมไปถวาย นอกจากนี้ ยังใช้ดอกทับทิมบวงสรวงบูชาพระอาทิตย์ พระนารายณ์ และเทวีลักษมี อีกด้วย
         จากข้อมูลข้างต้นเกี่ยวกับต้นทับทิมของทั้ง 3 ประเทศ พบว่าทั้ง 3 ประเทศมีความเชื่อเกี่ยวกับต้นทับทิมที่แตกต่างกันออกไป โดยในประเทศจีนและญี่ปุ่นจะมีจุดประสงค์ไปในทางเดียวกันคือ ต้นทับทิมสามารถปกปักรักษาจากสิ่งที่ไม่ดีจากภูติผีปีศาจได้ แต่ในประเทศกรีกต้นทับทิมถือเป็นสิ่งที่นิยมใช้บูชาเทพเจ้าที่นับถือให้เป็น ศิริมงคลกับตัวเอง (จารุพันธ์ ทองแถม, 2519)

ความเชื่อในแต่ละศาสนา[แก้ไข]

         พราหมณ์-ฮินดู
         ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนั้นมีความเชื่อว่าทับทิมเป้นผลไม้วิเศษมีเทพหลายองค์โปรดปรานผลไม้ชนิดนี้ เช่น ตำนานในศาสนาฮินดูเล่าว่า ใครใดที่นำทับทิมที่สวยงายไรตำหนิถวายแด่องค์เทพกฤษณะ ความปรารถนาของเขาจะสัมฤทธิ์ผล และเช่นเดียวกันพระพิฆเนศก็โปรดปรานผลไม้ชนิดนี้ด้วย และยังเชื่อกันว่าน้ำที่แช่ใบทับทิมถือกันว่าเป็น"น้ำมงคล"คือมี่พลังที่ดีจากธรรมชาติ แต่ถ้าแช่กิ่งไปในน้ำเฉยๆโดยไม่มีการกล่าวบทสวดหรือท่องคาถาตามศาสนพิธีก็จะไม่เรียกว่าน้ำมนต์
         พุทธมหายาน
         ในนิกายนี้พุทธมหายานมักนำกิ่งใบทับทิมเป็นใบไม้สิริมงคลที่ใช้ทุกงานที่มีน้ำมนต์ประกอบในพิธี โดยจะใช้พรมน้ำมนต์มีไว้ติดตัวเพื่อคุ้มครองป้องกันภัย และยังนำกิ่งทับทิมไปใช้ประพรมน้ำพุทธมนต์-น้ำเทพมนต์ หรือนำไปแช่ในน้ำสะอาดประพรมกันหรือแก้อาถรรพ์ได้ เช่น ประพรมหลังจากกลับจากงานศพ เป็นต้น 
         ศาสนาของชาวอียิปต์โบราณ
         ในศาสนาอียิปต์โบราณถือว่าทับทิมเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เนื่องจากเมล็ดทับทิมมีลักษณะคล้ายอัญมณีล้ำค่าแสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวยและเมล็ดของผลทับทิมยังแสดงถึงการมีลูกหลานมากมายอีกด้วย นอกจากนั้น ยังนิยมนำไปบูชาเทพเจ้าของชาวอียิปต์ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้ารา (สุริยเทพ) เทพเจ้าอามุน (เทพอากาศ/ราชาแห่งปวงเทพ) เทพเจ้าอนูบิส (เทพแห่งความตายและการรักษาศพ) เป็นต้้น และขับไล่ภูติ  ผี ปีศาจที่มีเจตนาจะทำร้ายรุกราน (จารุพันธ์ ทองแถม, 2519)

ประสบการณ์ความเชื่อเกี่ยวกับต้นไม้ทับทิม[แก้ไข]

2-1.jpg

ภาพที่ 1 ต้นทับทิม
(Kaset Today, ม.ป.ป.)

         ต้นทับทิม จัดเป็นต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้านที่ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย โดยสามารถนำใบต้นทับทิมมาปะพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลหรือขจัดสิ่งชั่วร้ายได้ อีกทั้งผลทับทิมก็ยังอุดมไป ด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันและบำรุงฟันให้แข็งแรง ทับทิมเป็นผลไม้มงคลของจีน กิ่งใบทับทิมเป็นใบไม้สิริมงคลที่ใช้ทุกงานที่มีน้ำมนต์ประกอบพิธี โดยจะใช้พรมน้ำมนต์และ มีไว้ติดตัวเพื่อคุ้มครองกันภัย มีเรื่องเล่าว่า เพราะเป็นพันธุ์ไม้ที่ถูกนำมา เผยแพร่ในเมืองจีนพร้อมกับ พระพุทธศาสนา ซึ่งประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า " พระถังซัมจั๋ง " ได้ไปอาราธนาพระไตรปิฎกที่อินเดีย ท่านได้นำพันธุ์ไม้ต่าง ๆ มาด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือ ทับทิม ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมาก จึงสื่อความหมายถึงการ ให้มีลูกชายมาก ๆ จึงได้กลายเป็นความเชื่อที่ว่า หากมีวิญญาณตามติดเรามา ถ้าเมื่อมาเจอต้นทับทิมที่เราปลูกเอาไว้ ภายหน้าบ้านพวกเขาจะเกิดการกลัวและไม่กล้าเข้ามาในบ้านเรา การไปงานศพเมื่อกลับมา ก็ให้เอาใบทับทิมแช่น้ำแล้วให้เอามาพรมก่อนเข้าบ้าน  เพื่อป้องกันสิ่งที่มองไม่เห็นไม่ให้ตามเราเข้าบ้าน นั่นเอง และเราจะสังเกตได้ว่าหากไหนที่เขาได้ปลูกต้นทับทิมเอาไว้บริเวณหน้าบ้าน เมื่อที่พวกเขาเวลากลับมาจากงานที่ไม่เป็นมงคล ก็จะนำก้านทับทิมที่แช่น้ำไว้หน้าบ้าน นำมาพรมบนร่างกายก่อนเข้าบ้านเสมอเพราะด้วยลักษณะของต้นไม้ชนิดนั่นเองซึ่งความเชื่อนี้ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน อย่างบางตำราว่ากันว่า ต้นทับทิม ถือเป็นต้นไม้หรือพันธุ์ไม้มงคล ที่สามารถช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีให้ออกไปได้ และช่วยในเรื่องของการเสริมดวงให้กับผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงงานมงคลพิธีสำคัญต่าง ๆ ก็จะใช้ยอดจากต้นทับทิม นำไปปักไว้เพื่อให้เกิดเรื่องราวดี ๆ ในอนาคตนั่นเอง จากประสบการณ์ข้าพเจ้า โปรดใช้วิจารณญาณก่อนอ่าน เมื่อหลายปีก่อนปู่ของข้าพเจ้าได้ประสบอุบัติเหตุรถล้มร่างกายไม่แข็งแรงเลย การล้มในครั้งนั้นรุนแรงมีกระดูกทิ่มปอดและมีน้ำในปอด ด้วยร่างกายที่แก่มากแล้วจึงทำให้ท่านทรุดหนักมากจนถึงขั้นเข้าห้อง ICU ญาติของข้าพเจ้าจึงได้นำกิ่งของต้นทับทิมมาทำน้ำมนต์และนำน้ำมาให้ปู่กินรวมทั้งทาตามตัว หลังจากนั้นหนึ่งวันอาการของปู่ก็เริ่มอาการดีขึ้นรู้สึกตัวสามารถพูดได้ขยับตัวได้หลังจากที่นอนไม่มีแรงมา หลายวันค่ะ หลังจากนั้นบ้านข้าพเจ้ามีความเชื่อว่าต้นทับทิมนั้นปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้จึงนิยมนำมาปลูกไว้เพื่อไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาภายในตัวบ้าน และในพื้นที่บริเวณตำบลข้าพเจ้าก็มีการนำต้นทับทิมไปใช้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น บางบ้านที่ทำการค้าขายก็มักปลูกต้นทับทิมไว้ในบ้านเพื่อเสริมสร้างความมั่งคั่งและมั้งคงในการทำงาน หรือทำให้ความค้าขายมีความรุ่งเรืองธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วแต่ในความเชื่อของคนเชื้อสายจีนนั้นเชื่อว่าการปลูกต้นทับทิมไว้ในบ้านจะเสริมเรื่องของชีวิตคู่การที่ลูกทับทิมมีเมล็ดเยอะแสดงถึงการมีลูกดก คนจีนจึงนิยมนำมาเป็นของขวัญให้ตู่บ่าวสาว

การปลูกต้นทับทิมภายในบ้าน[แก้ไข]

         1. ทิศทางที่มงคล
              ทิศเหนือ : เป็นที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับหน้าที่การงาน เสริมในเรื่องการงานรุ่งเรือง ในการทำงานอาจจะช่วยในการเลื่อนขั้นได้
              ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : เป็นทิศทางที่ช่วยในด้านสติปัญญาและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
              ทิศตะวันออก : มีความเชื่อว่าหากปลูกต้นไม้ในทิศนี้จะช่วยให้คนในบ้านมีสุขภาพแข็งแรง รวมถึงการมีชื่อเสียง หน้าที่การงานเป้นไปในทางที่ดี
              ทิศตะวันออกเฉียวใต้ : เป็นทิศทางแห่งความร่ำรวย และอุดมสมบูรณ์
              ใต้ : เป็นทิศที่ช่วยในเรื่องหน้าที่การงาน และอำนาจบารมี
              ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : เป็นทิศทางที่ช่วยส่งเสริมดวงความรัก และคนในบ้านมีความสงบสุข ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง
             ทิศตะวันตก : เป็นทิศทางที่ช่วยเรื่องหน้าที่การงานรวมถึงการศึกษาความรู้
             ทิศตะวันออกเฉียวเหนือ : เป็นทิศทางเกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ และการเริ่มต้นสิ่งใหม่
         2. เวลาที่เหมาะสม
         เวลาย้ายต้นไม้ที่ดีที่สุดควรเป็นช่วงบ่าย เพราะเป็นเวลาที่อาทิตย์ใกล้ตก อุณหภูมิของอากาศจะค่อยลดและต่ำลง ทำให้ต้นไม้ไม่ได้รับความร้อนต่อเนื่องเป็นเวลานานจนถึงรุ่งเช้า และควรปลูกในช่วงหน้าฝนถึงกลางฤดูฝน จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ต้นไม้แข็งแรงได้เร็ว
         3. ช่วยในเรื่องใดบ้าง
         ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายโดยสามารถนำใบต้นทับทิมมาปะพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลหรือขจัดความชั่วร้ายได้ อีกทั้งผลทับทิมก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันและบำรุงฟันให้แข็งแรง (Kapook, ม.ป.ป.)

คาถา[แก้ไข]

         วิธีในการทำน้ำมนต์และบทสวด 
              1. ชะเอมเทศ ซื้อมาเป็นกิ่งตัดยาวประมาณ 2 นิ้ว ใช้ทั้งหมด 5 กิ่ง ถ้าเหลือเก็บในตู้เย็นไว้ใช้งานหลังได้
              2. ขันน้ำมนต์ 1 ใบ (อันนี้เราใช้ขันน้ำใหม่ เสร็จงานก็เอามาใช้ต่อ)
              3. น้ำเปล่า 1 ขวด (เราใช้ขวดลิตร 1 ขวด)
              4. กิ่งทับทิม 5 กิ่ง มัดรวมกัน (เลือกกิ่งใหญ่หน่อย เพราะพอใช้พรมน้ำแล้วมันจะเหี่ยว)
         วิธีการทำ
              1. เทน้ำเปล่าลงในขันน้ำมนต์ ใส่ชะเอมเทศ และกิ่งทับทิมลงไป
              2. นำไปวางที่หน้าโต๊ะหมู่หรือหิ้งพระก่อน แล้วค่อยไปทำที่เจ้าที่โดยอธิษฐานดังต่อไปนี้" (ตั้งนโม 3 จบ) วันนี้เป็นวันดีของลูกช้าง ลูกช้างขอทำการจัดฮวงจุ้ยขออัญเชิญคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ สถานที่แห่งนี้ลงมาช่วยอธิษฐานจิต จัดทำน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อประสานแผ่นดิน ธาตุทั้ง 5 ของบ้านเข้าด้วยกัน และหลังจากประพรมน้ำมนต์แล้ว ขอให้ ......... .(ว่าไปเลย) "โดยทั้ง 2 ที่หลังจากจุดธูปแล้ว ทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้ว ค่อยลา
              3. จากนั้นเดินพรมน้ำมนต์ให้ทั่วบ้าน ถ้าเหลือจะเก็บไว้ หรือเอาไปรดน้ำต้นไม้ก็ได้

บทสรุป[แก้ไข]

         จากบทความข้างต้นสรุปได้ดังนี้ว่าความเชื่อ คือ การยอมรับ นับถือหรือยึดมั่นในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มีตัวตน หรือไม่มีตัวตนก็ตาม ว่าเป็นความจริงหรือมีอยู่จริง การยอมรับ หรือการยึดมั่นนี้อาจมีหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ หรืออาจไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์สิ่งนั้นได้ ความเชื่อเกี่ยวกับต้นทับทิมจึงหมายถึงการยึดมั่นเกี่ยวกับต้นทับทิมว่าหากปลูกต้นทับทิมแล้วจะเป็นสิริมงคล คนโบราณมีความเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความร่มรื่น และน่ายินดี ใบหรือกิ่งของต้นทับทิมให้คุณด้านการป้องกันภัยจากภูตผี เราจึงมักเห็นการใช้ใบหรือกิ่งทับทิมแช่น้ำล้างหน้า ล้างมือ พรมศีรษะหลังกลับจากการร่วมงานศพเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีที่ติดตามมา ความเชื่อเกี่ยวกับคนทับทิมในแต่ละประเทศแต่ละศาสนาก็แตกต่างกัน โดยประเทศจีนถือว่าต้นทับทิมเป็นไม้มงคล และเนื่องจากผลทับทิมมีเมล็ดมาก ชาวจีนจึงยกให้ทับทิมเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความมีลูกหลานมากมาย จึงนิยมให้ผลทับทิมเป็นของขวัญแก่บ่าวสาวในพิธีแต่งงานเพื่อให้มีลูกหลานมาก ๆ ในพิธีแต่งงานก็นิยมปักยอดทับทิมไว้ที่ผมบ่าวสาว และปักยอดทับทิมไว้ที่สิ่งของเซ่นไหว้เจ้า ประเทศญี่ปุ่นเชื่อว่าผลทับทิมเป็นเสมือนเจ้าแม่ที่คอยปกป้องรักษาเด็ก ๆ ให้ปลอดภัย และเชื่อว่าเมื่อเด็ก ๆ ได้รับประทานผลของทับทิมแล้วจะปลอดภัยจากภูติ ผี ปีศาจทั้งปวง ผลไม้ชนิดนี้จึงเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น ประเทศกรีกมีความเชื่อว่าต้นทับทิมเกิดจากโลหิตของไดโอนีซุส ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งเทพเจ้าทั้งปวงและเทวีนาน่า ซึ่งเป็นพรหมจารีย์ตั้งครรภ์ขึ้นโดยการสอดใส่ผลทับทิม และให้เกิดเทพเจ้าแอตติส ดังนั้นผู้ที่เคารพนับถือเทพแอตติสจึงไม่กินผลทับทิม ชาวยิวในสมัยพระเจ้าโซโลมอนก็ถือว่าทับทิมเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ ดังปรากฏอยู่บนยอดเสาของวิหารกษัตริย์โซโลมอน ชาวฮินดูในอินเดียเชื่อว่า พระคเณศทรงโปรดทับทิม ผู้ที่เคารพพระคเณศจึงนิยมนำผลทับทิมไปถวาย นอกจากนี้ ยังใช้ดอกทับทิมบวงสรวงบูชาพระอาทิตย์ พระนารายณ์ และเทวีลักษมี อีกในทางศาสนาก็เชื่อต่างกัน ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนั้นมีความเชื่อว่าทับทิมเป้นผลไม้วิเศษมีเทพหลายองค์โปรดปรานผลไม้ชนิดนี้ เช่น ตำนานในศาสนาฮินดูเล่าว่า ใครใดที่นำทับทิมที่สวยงายไรตำหนิถวายแด่องค์เทพกฤษณะ ความปรารถนาของเขาจะสัมฤทธิ์ผล และเช่นเดียวกันพระพิฆเนศก็โปรดปรานผลไม้ชนิดนี้ด้วย และยังเชื่อกันว่าน้ำที่แช่ใบทับทิมถือกันว่าเป็น "น้ำมงคล" คือ มีพลังที่ดีจากธรรมชาติ แต่ถ้าแช่กิ่งไปในน้ำเฉย ๆ โดยไม่มีการกล่าวบทสวดหรือท่องคาถาตามศาสนพิธีก็จะไม่เรียกว่าน้ำมนต์ ในศาสนาอียิปต์โบราณถือว่าทับทิมเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เนื่องจากเมล็ดทับทิมมีลักษณะคล้ายอัญมณีล้ำค่าแสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวยและเมล็ดของผลทับทิมยังแสดงถึงการมีลูกหลานมากมายอีกด้วย นอกจากนั้นยังนิยมนำไปบูชาเทพเจ้าของชาวอียิปต์อีกด้วยในเรื่องของทิศทางการปลูกต้นทับทิมในแต่ละทิศจะเป็นมงคลแตกต่างกันในเรื่องต่าง ๆ เวลาที่ดีที่สุดในการปลูกต้นทับทิมจะเป็นเวลาในช่วงบ่าย ส่วนในเรื่องคาถาที่ใช้สวดตอนพรมน้ำมนต์อยู่ในข้อมูลข้างต้น

บรรณานุกรม[แก้ไข]

จันทร์ศรี นิตยฤกษ์. (2523). ความรู้เรื่องคติชนวิทยา. สำนักพิมพ์วิทยาลัยครูธนบุรี.
จารุพันธ์ ทองแถม. (2519). ทับทิมและการทำสวนทับทิมในประเทศไทย. เกษตรสาร, 7(1), 79-94
ภิญโญ จิตต์ธรรม. (2522). ความเชื่อ. สำนักพิมพ์มงคลการพิมพ์.
มารยาท กิจสุวรรณ. (2526). ความเชื่อดั้งเดิมของไทย. วารสารวัฒนธรรมไทย, 22(11), 14-21.
สมปราชญ์ อัมมะพันธ์. (2536). ประเพณีและพิธีกรรมในวรรณคดีไทย. สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.
Kapook. (ม.ป.ป.). ประโยชน์ของทับทิม ผลไม้คุณค่าสูงยิ่ง ป้องกันได้หลายโรค. https://health.kapook.com/view4905.html
Kaset Today. (ม.ป.ป.). ทับทิม ไม้ผลมงคล อัญมณีแห่งความอุดมสมบูรณ์. https://kaset.today/พันธุ์ไม้/ทับทิม/